Work from Home
Work from Home (ทำงานจากที่บ้านFifth Harmonyแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I ain't worried 'bout nothin' I ain't wearin' na nada I'm sittin' pretty, impatient, but I know you gotta Put in them hours, I'mma make it hotter I'm sending pic after picture, I'mma get you firedฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอะไรเลย ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยนะ ฉันนั่งทำเป็นสวยน่ารัก ใจร้อน แต่ฉันรู้ว่าคุณต้อง สวมใส่พวกนั้นเป็นชั่วโมง ฉันจะทำตัวเองซ่ามากกว่า ฉันกำลังส่งรูปภาพหลายรูป ฉันจะทำให้คุณโดนไล่ออก[1] I know you're always on the night shift But I can't stand these nights alone And I don't need no explanation 'Cause baby, you're the boss at homeฉันรู้ว่าคุณทำงานกะกลางคืนอยู่เสมอ แต่ฉันไม่สามารถทนอยู่คนเดียวในค่ำคืนเหล่านี้ได้ และฉันไม่ต้องการคำอธิบายใด ๆ เพราะว่าที่รักคุณเป็นเจ้านายที่บ้าน[2] You don't gotta go to work, work, work, work, work, work, work But you gotta put in work, work, work, work, work, work, work You don't gotta go to work, work, work, work, work, work, work Let my body do the work, work, work, work, work, work, work, work We can work from home, oh, oh, oh oh We can work from home, oh, oh, oh ohคุณไม่จำเป็นต้องไปทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน แต่คุณต้องใช้เวลาทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน คุณไม่จำเป็นต้องไปทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ปล่อยให้ร่างกายของฉันทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน เราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ โอ้...โอ้...โอ้...โอ้... เราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ โอ้...โอ้...โอ้...โอ้... Let's put it into motion I'ma give you a promotion I'll make it feel like a vacay, turn the bed into an ocean We don't need nobody, I just need your body Nothin' but sheets in between us, ain't no getting off earlyเราลองนำไปใช้ดูเถอะ ฉันจะให้การส่งเสริมคุณ ฉันจะทำให้มันรู้สึกเป็นวันหยุดงาน เปลี่ยนเตียงเป็นมหาสมุทร เราไม่ต้องการใครเลย ฉันแค่ต้องการร่างกายของคุณเท่านั้น ไม่ต้องมีอะไรเลยนอกจากผ้าปูที่นอนระหว่างเรา ไม่ต้องถอดอะไรออกก่อน[1] [2]Girl, go to work for me Can you make it clap, no hands for me? Take it to the ground, pick it up for me Look back at it all over me Put in work like my timesheet She ride it like a '63 I'ma buy her no Celine Let her ride in a foreign with me Oh, she the bae, I'm her boo And she down to break the rules Ride or die, she gon' go I'm gon' judge, she finesse I pipe up, she take that Putting overtime on your bodyหญิงสาวเอ๋ย จงไปทำงานให้ฉัน คุณสามารถทำให้มันปรบมือได้ไหม โดยไม่ต้องตบมือให้ฉันนะ? นำมันลงไปที่พื้น หยิบมันขึ้นมาเพื่อฉัน มองย้อนกลับไปที่มันทั่วตัวของฉัน ใส่ไปในงานเหมือนกับบันทึกชั่วโมงทำงานของฉัน เธอขับมันเหมือนรถ Celine รุ่น 1963 (รุ่นไฟหน้าขนาดใหญ่มาก ฉันจะไม่ซื้อรถยนต์ Celine ให้เธอ ปล่อยให้เธอนั่งรถหรูจากต่างประเทศกับฉัน โอ้เธอเป็นคนสำคัญ ฉันเป็นคนรักของเธอ และเธอก็เศร้าที่ทำลายกฎ ขับขี่หรือตาย เธอจะต้องไป ฉันจะเป็นผู้ตัดสินว่าเธอมีความละเอียดมากเพียงใด ฉันส่งเสียงดัง เธอยอมรับสิ่งนั้นได้ ใช้เวลาให้มากบนร่างกายของคุณ[2]Yeah, we can work from home Yeah, we can work from home Yeahใช่แล้ว เราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ใช่เลย เราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ใช่แล้วVocabulary Itemsall over (prep) = ทั่ว ครบถ้วนand she down to break the rulesbae = before anyone else (n) = คนสำคัญ (slang)boo (n) = เพื่อนชาย เพื่อนหญิง คู่รัก กัญชา (slang)'bout/about (prep) = เกี่ยวกับclap (v) = ปรบมือexplanation (n) = คำอธิบาย การอธิบายfinesse (n) = ความละเอียดมาก ความเป็นศิลปะชั้นสูงforeign (n) = รถยนต์หรู ราคาแพง ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ferrari, lamborghini และ porsche เป็นต้นgon’ = go on (ทำต่อไป ดำเนินต่อไปgotta = going to (จะground (n) = พื้นดินhotter (adj) = ร้อนแรงกว่า ซ่ากว่า เจ๋งกว่าimpatient (adj) = ใจร้อน กระวนกระวายใจlet (v) = ปล่อยให้ อนุญาตให้look back at (v) = เหลียวกลับไปมองดูna nada = nothing (pro) = ไม่มีอะไรเลย ภาษาสเปนnight shift (n) = กะทำงานกลางคืนocean (n) = มหาสมุทรpic after picture = รูปแล้วรูปเล่าpick up (v) = เก็บขึ้น ถอนขึ้น หยิบขึ้น รับขึ้นpipe up (v) = พูดเสียงดังpretty (adj) = สวยน่ารักpromotion (n) = การส่งเสริม การสนับสนุนmotion (n) = การเคลื่อนไหว การเริ่มต้น การใช้จริง การปฎิบัติput in (v) = ใส่ลงไป บรรจุลงไปput in (v) = สวมใส่ride (v) = ขับรถยนต์take to (v) = นำไปสู่timesheet (n) = บันทึกชั่วโมงทำงานturn into (v) = เปลี่ยนเป็นvacay (n) = vacation (วันหยุดwear (v) = สวมใส่เสื้อผ้าworry (v) = วิตกกังวลใจExpressionsI ain't wearin' na nada = I'm wearing nothing. ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยนะI can't stand these nights aloneฉันไม่สามารถทนอยู่คนเดียวในค่ำคืนเหล่านี้ได้I'm sittin' pretty. = ฉันนั่งทำเป็นสวยน่ารักI'ma = I am going to (ฉันจะI'mma = I am going to (ฉันจะI'mma get you fired. = ฉันจะทำให้คุณโดนไล่ออกLet my body do the work. = ปล่อยให้ร่างกายของฉันทำงานLet's put it into motion. = เราลองนำไปใช้ดูเถอะ เราลองนำไปใช้จริงเถอะNothin' but sheets in between us, ain't no getting off early. = ไม่ต้องมีอะไรเลยนอกจากผ้าปูที่นอนระหว่างเรา เราทั้งคู่นอนเปลือยกายไม่ต้องถอดอะไรออกก่อนเพราะว่าถอดทุกอย่างไว้ก่อนแล้วShe ride it like a '63. = เธอขับมันเหมือนรถ Celine รุ่น 1963 (รุ่นไฟหน้าขนาดใหญ่มาก เธอขับมันกลับหัวกลับหางเหมือนท่าร่วมเพศแบบ 69 (slang)She take that. = เธอยอมรับสิ่งนั้นได้We don't need nobody, I just need your body. = เราไม่ต้องการใครเลย ฉันแค่ต้องการร่างกายของคุณเท่านั้นYou don't gotta go to work. = คุณไม่จำเป็นต้องไปทำงานYou gotta put in work. = คุณต้องใช้เวลาทำงาน You're the boss at home. = คุณเป็นเจ้านายที่บ้าน คุณเป็นคนสำคัญที่บ้าน
10 กรกฎาคม 2563     |      30793
So Far Away
So Far Away (ไกลแสนไกลDavid Guetta and Martin Garrixแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Light 'em up, light 'em up Tell me where you are, tell me where you are Summer nights, bright lights And the shootin' stars, they break my heartจุดไฟขึ้น จุดไฟขึ้น บอกฉันว่าคุณอยู่ที่ไหน บอกฉันว่าคุณอยู่ที่ไหน คืนฤดูร้อน แสงจ้า และดาวตกหลายดวง มันทำให้ฉันอกหักCallin' you now, but you're not pickin' up Shadows so close if that's still enough Light a match, light a match Baby, in the dark, show me where you areโทรหาคุณตอนนี้ แต่คุณไม่ได้รับสาย เงาอยู่ใกล้มาก ถ้ามันยังพอมีอยู่ จุดไม้ขีดไฟซิ จุดไม้ขีดไฟซิ ที่รัก ในที่มืด แสดงให้ฉันเห็นซิว่าคุณอยู่ที่ไหน[1] Oh, love How I miss you every single day When I see you on those streets Oh, love Tell me there's a river I can swim that will bring you back to me 'Cause I don't know how to love someone else I don't know how to forget your face No, love God, I miss you every single day and now you're so far away So far awayโอ้ ความรัก ฉันช่างคิดถึงคุณทุก ๆวันเสียนี่กระไร เมื่อฉันเห็นคุณบนถนนเหล่านั้น โอ้ ความรัก บอกฉันซิว่า มีแม่น้ำที่ฉันสามารถว่ายน้ำ ซึ่งจะพาคุณกลับมาหาฉันได้ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะรักคนอื่นได้อย่างไร ฉันไม่รู้จะลืมใบหน้าของคุณได้อย่างไร ไม่รู้ ความรัก โอ้...พระผู้เป็นเจ้า ฉันคิดถึงคุณทุกวัน และตอนนี้คุณอยู่ไกลแสนไกล ไกลแสนไกลIt's breakin' me, losin' you We were far from perfect But we were worth it Too many fights, and we cried But never said we're sorry Stop sayin' you love meมันกำลังทำให้ใจฉันแตกสลาย กำลังสูญเสียคุณ เรายังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ เราแตกต่างกันมาก แต่เราก็คุ้มค่า ความแตกต่างก็มีประโยชน์คุ้มค่า มีการทะเลาะกันหลายครั้ง และเราก็ร้องไห้ แต่ไม่เคยพูดว่าเราขอโทษกัน หยุดพูดนะว่า คุณรักฉันYou're callin' me now, but I can't pick up Your shadow's still close, and I'm still in love The summer's over now But somehow it still breaks my heart We could have had this talk Ohคุณกำลังโทรหาฉันตอนนี้ แต่ฉันไม่สามารถรับสายได้ เงาของคุณยังคงอยู่ใกล้มาก และฉันก็ยังมีความรัก ฤดูร้อนจบสิ้นลงแล้วขณะนี้ แต่มีบางอย่างที่มันยังทำลายหัวใจของฉัน เราควรจะได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ โอ้...[1]So far away So far away, oh So far away So far awayไกลแสนไกล ไกลแสนไกล ไกลแสนไกล ไกลแสนไกล[1]Vocabulary Itemsbe over (adj) = สิ้นสุดbreak (v) = ทำให้แตก ทำให้หัก breaking (v+ing) = กำลังทำให้อกหักbright (adj) = สว่างbring back (v) = นำกลับมาcalling (n) = การโทรศัพท์ close (adj) = ใกล้ชิดdark (n) = ความมืดfight (n) = การทะเลาะกัน การต่อสู้กันheart (n) = หัวใจlight (n) = แสงlight (v) = จุดไฟ light up (v) = จุดไฟขึ้นlosing (v+ing) = กำลังสูญเสียmatch (n) = ไม้ขีดไฟpicking up (n) = การรับสายโทรศัพท์shadow (n) = เงาshooting star (n) = ดาวตก ผีพุ่งไต้single day = แต่ละวันso far away = ไกลแสนไกลsummer (n) = ฤดูร้อนExpressionsBut we were worth itแต่เราก็คุ้มค่า ความแตกต่างก็มีประโยชน์คุ้มค่าHow I miss you every single dayฉันช่างคิดถึงคุณทุก ๆวันเสียนี่กระไรLight a match = จุดไม่ขีดไฟซิWe could have had this talkเราควรจะได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้แต่ว่าเราไม่ได้พูดกันเรื่องนี้We were far from perfectเรายังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ เราแตกต่างกันมากWe're sorry. เราเสียใจ เราขอโทษGrammar การใช้ Could haveเราใช้ could have เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ หรือการกระทำบางอย่างที่น่าจะเกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่ว่าไม่ได้เกิดขึ้น หรือกระทำในความเป็นจริง ซึ่งในภาษาไทยตรงกับคำว่า น่าจะได้หรือ ควรจะได้เช่นWe could have had this talkเราควรจะได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้แต่ว่าเราไม่ได้พูดกันเรื่องนี้
10 กรกฎาคม 2563     |      10143
Lose You to Love Me
Lose You to Love Me (สูญเสียคุณเพื่อรักตัวฉันSelena Gomezแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์[1] You promised the world and I fell for it I put you first and you adored it Set fires to my forest And you let it burn Sang off key in my chorusคุณให้สัญญาว่าจะยกโลกให้ฉันและฉันก็หลงเชื่อ ฉันยกให้คุณเป็นคนอันดับแรกและคุณก็ซาบซึ้ง จุดไฟเผาป่าของฉัน และคุณก็ปล่อยให้มันไหม้ ร้องเพลงปิดคีย์ในการร้องประสานเสียงของฉัน'Cause it wasn't yours I saw the signs and I ignored it Rose colored glasses all distorted Set fire to my purpose And I let it burn You got off on the hurtin' When it wasn't yours, yeahเพราะมันไม่ใช่ของคุณ ฉันเห็นสัญญาณแล้วและฉันเพิกเฉย สีกุหลาบในแก้วมันผิดเพี้ยนไปหมด จุดไฟเผาวัตถุประสงค์ของฉัน และฉันปล่อยให้มันไหม้ คุณหนีออกไปจากความเจ็บปวด เมื่อมันไม่ใช่ของคุณ ใช่เลย[3] We'd always go into it blindly I needed to lose you to find me This dance, it was killing me softly I needed to hate you to love me, yeahเรามักจะเข้าไปในเหตุการณ์อย่างคนตาบอดเสมอ ฉันจำเป็นต้องสูญเสียคุณเพื่อหาตัวตนของฉัน การเต้นรำนี้มันกำลังฆ่าฉันอย่างนุ่มนวล ฉันจำเป็นต้องเกลียดคุณเพื่อที่จะรักตัวฉัน ใช่เลย[2] To love, love, yeah To love, love, yeah To love, yeah I needed to lose you to love me, yeah To love, love, yeah To love, love, yeah To love, yeah I needed to lose you to love meเพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก ใช่เลย ฉันจำเป็นต้องสูญเสียคุณเพื่อที่จะรักตัวฉันเอง ใช่แล้ว เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก ใช่เลย ฉันจำเป็นต้องสูญเสียคุณเพื่อที่จะรักตัวฉันเองI gave my all and they all know it Then you tore me down and now it's showing In two months, you replaced us Like it was easy Made me think I deserved it In the thick of healing, yeahฉันให้ทุกอย่างของฉันและพวกเขาทุกคนรู้ แล้วคุณก็ฉีกฉันทิ้ง และตอนนี้มันก็กำลังปรากฏขึ้น ในอีกสองเดือนคุณก็เปลี่ยนเราเป็นคนอื่น เหมือนกับว่ามันง่าย ทำให้ฉันคิดว่าฉันสมควรได้รับกรรมมัน ในระหว่างการรักษาที่เป็นอันตราย ใช่เลย[3] [2] [1] [2]To love, love, yeah To love, love, yeah To love, yeahเพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก ใช่เลยAnd now the chapter is closed and done To love, love, yeah To love, love, yeah To love, yeah And now it's goodbye, it's goodbye for usและตอนนี้บทนิยายถูกปิดและจบสิ้นแล้ว เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก เพื่อรัก ใช่เลย เพื่อรัก ใช่เลย และตอนนี้มันเป็นการลาจากแล้วสำหรับเรา มันเป็นการลาจากแล้วสำหรับเราVocabulary Itemsadore (v) = รักใคร่ บูชาblindly (adv) = อย่างคนตาบอดburn (v) = ไหม้chapter (n) = บท ตอน ของหนังสือchorus (n) = การร้องเพลงประสานเสียงclosed and done = ถูกปิดและจบสิ้นแล้วdance (n) = การเต้นรำdistort (v) = ผิดเพี้ยนจากเดิมforest (n) = ป่าไม้get off on (v) = หลีกเลี่ยงgoodbye (n) = การลาจากhate (v) = เกลียดhurting (n) = ความเจ็บปวดignore (v) = เพิกเฉย ไม่สนใจใยดีkill (v) = ฆ่าlet (v) = ปล่อย อนุญาตlose (v) = สูญเสียpromise (v, n) = สัญญา คำสัญญาpurpose (n) = วัตถุประสงค์replace (v) = แทนที่sign (n) = สัญญาณsoftly (adv) = อย่างนุ่มนวล อย่างผ่าเบาtear, tore, torn down (v) = ฉีกออกเป็นชิ้นๆExpressionsI fell for it. = ฉันหลงเชื่อLike it was easy. = เหมือนกับว่ามันง่ายMade me think I deserved it. = ทำให้ฉันคิดว่าฉันสมควรได้รับกรรมมันpromise the world/the earth/the moon = ให้สัญญาที่เป็นไปไม่ได้พูดโม้ พูดเกินจริงRose colored glasses (n) = แก้วที่มีการระบายสีเป็นรูปดอกกุหลาบSet fires. (v) = จุดไฟSing (sang, sung) off key. = ร้องเพลงผิดคีย์Thick of healing (n) = ในระหว่างการรักษาที่เป็นอันตรายYou let it burn. = คุณปล่อยให้มันไหม้You promised the world. = คุณให้สัญญาที่เป็นไปไม่ได้
10 กรกฎาคม 2563     |      1074
Is There Somewhere
Is There Somewhere (มีสักที่หนึ่งไหมHalseyแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์You were dancing in your tube socks in our hotel room Flashing those eyes like highway signs Light one up and hand it over, rest your head upon my shoulder I just wanna feel your lips against my skinคุณเต้นรำใส่ถุงเท้าหลอดในห้องพักของเรา แววตาของคุณเหมือนสัญญาณไฟทางหลวง จุดไฟขึ้นแล้วส่งมันผ่านมา วางหัวของคุณบนไหล่ของฉัน ฉันแค่อยากจะสัมผัสริมฝีปากของคุณกับผิวของฉันWhite sheets, bright lights, crooked teeth, and the night life You told me this is right where it begins But your lips hang heavy underneath me And I promised myself I wouldn't let you complete meผ้าปูที่นอนสีขาว ไฟสว่าง ฟันเยิ่นและชีวิตกลางคืน คุณบอกฉันว่า สิ่งนี้ถูกต้อง ณ ที่มันเริ่มต้น แต่ริมฝีปากคุณผ่านไปอย่างเฉื่อยช้าอยู่ข้างใต้ฉัน และฉันสัญญากับตัวเองว่า ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทำกับฉันให้เสร็จสมบูรณ์I'm trying not to let it show, that I don't want to let this go Is there somewhere you can meet me? 'Cause I clutched your arms like stairway railings And you clutched my brain and eased my ailingฉันพยายามที่จะไม่ให้มันแสดงว่า ฉันไม่ต้องการปล่อยให้สิ่งนี้ผ่านไป มีที่ไหนบ้างไหมที่คุณสามารถพบฉันได้ เพราะว่าฉันจับแขนของคุณแน่นเหมือนกับราวบันได และคุณบีบขมับของฉันและบรรเทาอาการป่วยของฉันได้You're writing lines about me; romantic poetry Your girl's got red in her cheeks, 'cause we're something she can't see And I try to refrain but you're stuck in my brain And all I do is cry and complain because second's not the sameคุณกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับฉัน เป็นบทกวีเรื่องรักๆใคร่ (โรแมนติก ผู้หญิงของคุณมีแก้มสีแดง เพราะว่าเราเป็นบางอย่างที่เธอมองไม่เห็น และฉันพยายามที่จะละเว้นบางอย่าง แต่ว่าคุณติดอยู่ในสมองของฉัน และทั้งหมดที่ฉันทำคือร้องไห้และบ่น เพราะว่าครั้งที่สองไม่เหมือนครั้งแรก[1] I'm sorry but I fell in love tonight I didn't mean to fall in love tonight You're looking like you fell in love tonight Could we pretend that we're in love?ฉันขอโทษ แต่ฉันตกหลุมรักในคืนนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตกหลุมรักในคืนนี้ คุณดูเหมือนว่าคุณตกหลุมรักคืนนี้ เราจะแกล้งทำเป็นว่าเรากำลังมีความรักได้ไหม[1]Vocabulary Itemsailing (n) = อาการเจ็บป่วยbrain (n) = สมอง ขมับbright (adj) = สว่างclutch (v) = จับไว้แน่น บีบcomplain (v) = บ่นcrooked (pp) = เยิ่น โค้ง งอdance (v) = เต้นรำease (v) = บรรเทา ทำให้มีอาการดีขึ้นflash (v) = กวาดไปมาอย่างรวดเร็วhand over (v) = ส่งผ่านมาhang heavy (idiom) = ผ่านไปอย่างเฉื่อยช้า ล่องลอยอยู่ในอากาศยาวนานhighway signs (n) = สัญญาณไฟจราจรlight (n) = แสงlight up (v) = จุดไฟขึ้น เปิดไฟขึ้นlip (n) = ริมฝีปากmean to (v) = ตั้งใจpoetry (n) = บทกวีpretend (n) = แสร้งทำpromise (v) = สัญญาrefrain (v) = ละเว้นบางอย่าง rest upon (v) = วางลงที่romantic (adj) = เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ shoulder (n) = ไหล่skin (n) = ผิวหนังstairway railing (n) = ราวบันไดtube socks (n) = ถุงเท้าหลอด ถุงเท้าฟรีไซส์แบบไร้ส้นunderneath (prep) = อยู่ข้างใต้white sheet (n) = ผ้าปูที่นอนExpressionsI didn't mean to fall in love tonightฉันไม่ได้ตั้งใจจะตกหลุมรักในคืนนี้I don't want to let this go. = ฉันไม่ต้องการปล่อยให้สิ่งนี้ผ่านไปI wouldn't let you complete meฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทำกับฉันให้เสร็จสมบูรณ์I'm sorry but I fell in love tonightฉันขอโทษ แต่ฉันตกหลุมรักในคืนนี้You clutched my brain and eased my ailingคุณบีบขมับของฉันและบรรเทาอาการป่วยของฉันYou're stuck in my brain. = คุณติดอยู่ในสมองของฉัน
10 กรกฎาคม 2563     |      776
I'm Not Her
I'm Not Herฉันไม่ใช่เธอClara Maeแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Been two years, our memories are blurred Hadn't heard your voice, no, not a word But still they, they talk about the things we were They talk about us But I don't know the things that you have heardเมื่อสองปีที่แล้วความทรงจำของเราเลอะเลือน ไม่เคยได้ยินเสียงของคุณเลย ไม่เคย ได้ยินสักคำเดียว แต่พวกเขาก็ยังพูดถึงสิ่งที่เราเคยเป็น พวกเขาพูดเกี่ยวกับเรา แต่ฉันไม่รู้สิ่งที่คุณได้เคยยิน[1] She's dancing on your feet With our song on repeat She painted every role of us She's taking off her clothes In the bed you kept me warm Heard she's everything I never wasเธอชอบเต้นรำอยู่บนเท้าของคุณ ด้วยเพลงของเราหลายรอบ เธอเลียนแบบทุกบทบาทของเรา เธอถอดเสื้อผ้า บนเตียงที่คุณทำให้ฉันอบอุ่น ได้ยินว่าเธอคือทุกสิ่งที่ฉันไม่เคยเป็น[2] No, I'm not her, no Never will Never gonna move like her, move like I'm not her, no Never will Never gonna look like her, be like I'm not her I'm not her, no At least that's what I've heardไม่ใช่ ฉันไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ แล้วจะไม่มีวันเป็นเลย จะไม่เคลื่อนไหวเหมือนเธอ เคลื่อนไหวเหมือนเธอ ฉันไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ แล้วจะไม่มีวันเป็นเลย จะไม่มีลักษณะเหมือนเธอ เป็นเหมือน ฉันไม่ใช่เธอ ฉันไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ฉันเคยได้ยินMe, myself, just stumble on the glue The thing I thought was missing wasn't you And now I'm no longer scared to meet the night I'm doing alright Me, myself, we started something newฉัน ตัวฉันเองแค่สะดุดลงบนกาว สิ่งที่ฉันคิดว่าขาดหายไปไม่ใช่คุณ และตอนนี้ฉันก็ไม่กลัวที่จะพบกับกลางคืนอีกแล้ว ฉันไม่เป็นไร ฉัน ตัวฉันเอง เราเริ่มต้นบางอย่างใหม่[1][2]Been told that she's the opposite I kinda like the sound of it And there's no one like me And that makes it easierเคยได้รับการบอกว่าเธอเป็นคนตรงกันข้าม ฉันฟังแล้วดูจะชอบนะ และไม่มีใครเหมือนฉัน และนั่นทำให้มันง่ายขึ้น[2]Vocabulary Itemsat least = อย่างน้อยที่สุดbeen told that she's the oppositeblurred (pp.) = เลอะเลือนclothes (n) = เสื้อผ้าที่ตัดเย็บแล้วglue (n) = กาวgonna = going tokinda/kind of (adv) = ค่อนข้าง แบบว่าmemory (n) = ความทรงจำmove (v) = เคลื่อนไหวno longer (adj) = ไม่มีอีกต่อไปopposite (n, adj) = สิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม มีลักษณะตรงกันข้า อยู่ตรงกันข้ามscared (pp) = กลัวstumble (v) = สดุดบางอย่างtake off (v) = ถอดออกtalk about (v) = พุดเกี่ยวกับ พูดถึงvoice (n) = เสียงExpressionsI kinda like the sound of itฉันฟังแล้วดูค่อนข้างจะชอบนะ I'm doing alrightฉันไม่เป็นไรI'm no longer scared to meet the nightฉันก็ไม่กลัวที่จะพบกับกลางคืนอีกแล้วไม่กลัวที่จะเผชิญกับอุปสรรค)She painted every role of usเธอวาดเลียนแบบทุกบทบาทของเรา She's dancing on your feetหล่อนเหยียบเท้าคู่เต้นขณะที่เต้นรำเพราะเต้นไม่เก่ง หล่อนเหยียบเท้าคู่เต้นขณะที่เต้นรำเพราะชอบแบบนั้นGrammarPresent Perfect Tenseปัจจุบันกาลสมบูรณ์ ใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตที่ไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด และมีผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งอาจมีผลต่อไปในอนาคตด้วยก็ได้ เช่นBeen two years = It has been two years. = มันเป็นเวลามานานแล้ว 2 ปีแล้ว จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ และอาจต่อไปในอนาคตBeen told that she's the opposite = I have been told that she is the opposite. = ฉันได้รับการบอกกล่าวมานานแล้วว่าเธอมีลักษณะตรงกันข้าม จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ และอาจต่อไปในอนาคตHeard she's everything I never was= I have heard that she is everything that I never was. = ฉันได้ยินมานานแล้วว่า เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันไม่เคยเป็นจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ และอาจต่อไปในอนาคต
10 กรกฎาคม 2563     |      1296
I'm a Mess
I'm a Messฉันสับสนวุ่นวายBebe Rexhaแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Everything's been so messed up here lately Pretty sure he don't wanna be my baby Oh, he don't love me, he don't love me He don't love me, he don't love me But that's okay 'Cause I love me, yeah, I love me Yeah, I love me Yeah, I love myself anyway Heyทุกอย่างสับสนวุ่นวายมากที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่ต้องการเป็นคนรักของฉัน โอ้...เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันรักตัวเอง ใช่แล้ว ฉันรักตัวเอง ใช่...ฉันรักตัวเอง ใช่แล้ว ฉันรักตัวเองอยู่ดี เฮ้[1] Everything's gonna be alright Everything's gonna be okay It's gonna be a good, good, life That's what my therapist say Everything's gonna be alright Everything's gonna be just fine It's gonna be a good, good lifeทุกอย่างจะไม่เป็นไร ทุกอย่างจะโอเค มันจะเป็นชีวิตที่ดี ที่ดี นั่นคือสิ่งที่นักบำบัดโรคของฉันพูดไว้ ทุกอย่างจะไม่เป็นไร ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี มันจะเป็นชีวิตที่ดี ที่ดี[2] I'm a mess, I'm a loser I'm a hater, I'm a user I'm a mess for your love, it ain't new I'm obsessed, I'm embarrassed I don't trust no one around us I'm a mess for your love, it ain't newฉันสับสนวุ่นวาย ฉันเป็นผู้แพ้ ฉันเป็นคนเกลียดชังคน ฉันเป็นผู้ใช้ ฉันสับสนวุ่นวายกับความรักของคุณ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ ฉันเป็นคนชอบหมกมุ่น ฉันรู้สึกเขินอาย ฉันไม่เชื่อใจใครรอบๆตัวเรา ฉันสับสนวุ่นวายกับความรักของคุณ มันไม่ใช่เรื่องใหม่Nobody shows up unless I'm paying Have a drink on me cheers to the failing Oh, he don't love me, he don't love me He don't love me, he don't love me But that's okay 'Cause I love me, yeah, I love me Yeah, I love me Yeah, I love myself anyway Heyไม่มีใครโผล่หน้ามาเว้นแต่ว่าฉันจะจ่ายเงิน ดึ่มเครื่องดื่มที่ฉันจ่ายเงิน ยินดีกับความล้มเหลว โอ้...เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน เขาไม่รักฉัน แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันรักตัวเอง ใช่แล้ว ฉันรักตัวเอง ใช่...ฉันรักตัวเอง ใช่แล้ว ฉันรักตัวเองอยู่ดี เฮ้[1] [2]Everything's gonna be alright, alright Everything's gonna be just fine, just fine It's gonna be a good, good lifeI'm a mess, I'm a loser I'm a hater, I'm a user I'm a mess for your love, it ain't new I'm obsessed, I'm embarrassed I don't trust no one around us I'm a mess for your love, it ain't newทุกอย่างจะไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี มันจะเป็นชีวิตที่ดี ที่ดี ฉันสับสนวุ่นวาย ฉันเป็นผู้แพ้ ฉันเป็นคนเกลียดชังคน ฉันเป็นผู้ใช้ ฉันสับสนวุ่นวายกับความรักของคุณ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ ฉันเป็นคนชอบหมกมุ่น ฉันรู้สึกเขินอาย ฉันไม่เชื่อใจใครรอบๆตัวเรา ฉันสับสนวุ่นวายกับความรักของคุณ มันไม่ใช่เรื่องใหม่Vocabulary Itemsalright (adj) = ใช้การได้ ดีแล้ว ไม่มีปัญหาanyway (adv) = นอกจากนี้ อย่างไรก็ตาม อยู่ดีcheer (v) = สนับสนุนfailing (n) = ความล้มเหลวjust fine = = ใช้การได้ ดีแล้ว ไม่มีปัญหาlately (adv) = หมู่นี้ ช่วงนี้ ระยะนี้mess up (v) = สับสนวุ่นวายmess (n) = ความสับสนวุ่นวาย ความสกปรก ความไม่มีระเบียบpretty sure = ค่อนข้างแน่ใจshow up (v) = ปรากฏตัว therapist (n) = นักบำบัดโรคtrust (v) = เชื่อใจ ไว้ใจExpressionsHave a drink on meดื่มเครื่องดื่มที่ฉันเป็นคนจ่ายเงินI'm a haterฉันเป็นคนเกลียดชังคนI'm a loserฉันคือผู้แพ้I'm obsessed. = ฉันเป็นคนชอบหมกมุ่นI'm a mess. = ฉันสับสนวุ่นวาย ฉันไม่มีระเบียบ ฉันสกปรกI'm a userฉันเป็นผู้ใช้I'm embarrassedฉันรู้สึกเขินอาย
10 กรกฎาคม 2563     |      855
Nice to Meet Ya
Nice to Meet Yaยินดีที่ได้พบคุณNiall Horanแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์[1] I like the way you talk, I like the things you wear I want your number tattooed on my arm in ink, I swear 'Cause when the morning comes, I know you won't be there Every time I turn around, you disappearผมชอบวิธีที่คุณพูด ผมชอบสิ่งที่คุณสวมใส่ ผมต้องการหมายเลขของคุณที่รอยสักที่แขนของผมด้วยหมึก ผมสาบานได้ เพราะว่าเมื่อถึงตอนเช้า ผมรู้ว่าคุณจะไม่อยู่ที่นั่น ทุกครั้งที่ผมหันหลังกลับ คุณจะหายไปI wanna blow your mind, just come with me, I swear I'm gonna take you somewhere warm, you know j'adore la mer 'Cause when the morning comes, I know you won't be there Every time I turn around, you disappearผมอยากจะทำบางอย่างให้คุณตื่นเต้น เพียงแค่มากับผม ผมสาบานได้ ผมจะพาคุณไปที่ไหนสักแห่งที่อบอุ่น คุณรู้ ผมรักทะเล (j'adore la mer – ภาษาฝรั่งเศส จา อะดอร์ เลอ แมร์ เพราะว่าเมื่อถึงเวลาเช้า ผมรู้ว่าคุณจะไม่อยู่ที่นั่น ทุกครั้งที่ผมหันหลังกลับ คุณจะหายไป[2] Nice to meet ya (I got love for you) (I got love for you)ยินดีที่ได้พบคุณ ผมมีความรักสำหรับคุณ) ผมมีความรักสำหรับคุณ)[3] Nice to meet ya, what's your name? Let me treat ya to a drinkยินดีที่ได้พบคุณ คุณชื่ออะไร ขอให้ผมเลี้ยงคุณเป็นเครื่องดื่มนะ[1] [2]One minute, you're there, the next one, you're gone Been waiting for you all night, so come on You know what I need, you know what I want You know what I need now, you know what I need nowหนึ่งนาที คุณอยู่ที่นั่น ต่อมาอีกหนึ่งนาที คุณก็หายไปแล้ว ผมรอคอยคุณอยู่ทั้งคืนเลย ดังนั้น เชิญมาเถอะ คุณรู้ว่าผมอยากได้อะไร คุณรู้ว่าผมต้องการอะไร คุณรู้ว่าผมอยากได้อะไรตอนนี้ คุณรู้ว่าผมต้องการอะไรตอนนี้[3]Nice to meet ya (I got love for you) Where ya been? (I got love for you) Let me treat ya (I got love for you) To a drink (I got love for you) Nice to meet yaยินดีที่ได้พบคุณ ผมมีความรักสำหรับคุณ) คุณไปที่ไหนมา? ผมมีความรักสำหรับคุณ) ให้ผมเลี้ยงคุณ ผมมีความรักสำหรับคุณ) เป็นเครื่องดื่มนะ ผมมีความรักสำหรับคุณ) ยินดีที่ได้พบคุณVocabulary Itemsblow someone’s mind = ทำให้บางคนรู้สึกตื่นเต้นdisappear (v) = หายตัว หายไปminute (n) = นาทีnice to meet ya. = ยินดีที่ได้พบคุณnumber (n) = หมายเลขโทรศัพท์swear (v) = สาบานtattoo (v,n) = สัก รอยสักturn around (v) = หันหลัง เหลียวมาข้างหลังya = youExpressionsCome on. = เชิญมาเถอะ เชิญเลย เชิญครับคะ(I’ve) Been waiting for you all night. = ผมรอคอยคุณอยู่ทั้งคืนI got love for you. = ผมมีความรักสำหรับคุณI like the things you wear. = ผมชอบสิ่งที่คุณสวมใส่I like the way you talk. = ผมชอบวิธีที่คุณพูดI wanna blow your mind. = ผมอยากจะทำบางอย่างให้คุณตื่นเต้นYou know what I need, you know what I want. = คุณรู้ว่าผมอยากได้อะไร คุณรู้ว่าผมต้องการอะไร
8 กรกฎาคม 2563     |      560
Just Give Me a Reason
Just Give Me a Reason (เพียงแต่ให้เหตุผลฉันหน่อยPinkแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Right from the start You were a thief, you stole my heart And I’m your willing victim I let you see the parts of me, that weren't all that pretty And with every touch you fixed them Now you've been talking in your sleep oh oh Things you never say to me oh oh Tell me that you've had enough Of our love, our loveตั้งแต่เริ่มต้น คุณเป็นขโมย คุณขโมยหัวใจของฉันไป และฉันตกเป็นเหยื่อของคุณด้วยความเต็มใจ ฉันยอมให้คุณเห็นส่วนต่าง ๆ ของฉันที่มันไม่ใช่สวยทั้งหมด และด้วยการสัมผัสทุกครั้งที่คุณแก้ไขมัน ตอนนี้คุณกำลังพูดละเมอระหว่างการนอนหลับของคุณ โอ้...โอ้... สิ่งที่คุณไม่เคยพูดกับฉันมาก่อนเลย โอ้...โอ้... บอกฉันว่าคุณได้เพียงพอแล้ว จากความรักของเรา ความรักของเรา[1] Just give me a reason, just a little bit's enough Just a second we're not broken just bent, and we can learn to love again It's in the stars, it's been written in the scars on our hearts We're not broken just bent, and we can learn to love againเพียงแต่ให้เหตุผลฉันหน่อย เพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็พอ แค่วินาทีเดียว เราก็ไม่หักพัง เพียงแต่โค้งเท่านั้น และเราสามารถเรียนรู้ที่จะรักอีกครั้งได้ มันอยู่ในดวงดาว มันถูกเขียนในรอยแผลเป็นบนหัวใจของเรา เราก็ไม่หักพัง เพียงแต่โค้งเท่านั้น และเราสามารถเรียนรู้ที่จะรักอีกครั้งได้I'm sorry I don't understand Where all of this is coming from I thought that we were fine Oh we had everything Your head is running wild again My dear we still have everythin' And it's all in your mind Yeah but this is happenin' You've been havin' real bad dreams oh oh You used to lie so close to me oh oh There's nothing more than empty sheets between our love, our love Oh our love, our loveฉันขอโทษที่ฉันไม่เข้าใจ ทั้งหมดนี้มาจากไหน ฉันคิดว่าเราไม่มีปัญหาอะไร (โอ้...เรามีทุกอย่าง) หัวของคุณกำลังทำงานหนักอีกครั้งหนึ่ง ที่รัก เรายังคงมีทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกอย่างมันอยู่ในใจของคุณ (ใช่ แต่นี่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น) คุณมีฝันร้ายจริงๆมาตลอดเวลานานแล้ว โอ้...โอ้... คุณเคยนอนแนบชิดกับฉันมาก โอ้...โอ้... ไม่มีอะไรมากไปกว่าผ้าปูที่นอนว่างเปล่าระหว่างความรักของเรา ความรักของเรา โอ้...ความรักของเรา ความรักของเรา[1]Oh tear ducts and rust I'll fix it for us We're collecting dust, but our love's enough You're holding it in You're pouring a drink No nothing is as bad as it seems We'll come cleanโอ้...ท่อท่อน้ำตาและสนิม ฉันจะแก้ไขมันเพื่อเรา เรากำลังเก็บฝุ่น แต่ความรักของเราก็เพียงพอ คุณกำลังถือมันอยู่ คุณกำลังเทเครื่องดื่ม ไม่ใช่ ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่เห็น เราจะกลับมาอย่างสะอาดเราจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้[1] x 2Oh we can learn to love again Oh we can learn to love again oh oh Oh we're not broken just bent and we can learn to love againโอ้...เราสามารถเรียนรู้ที่จะรักได้อีก โอ้...เราสามารถเรียนรู้ที่จะรักได้อีก โอ้...โอ้... โอ้...เราก็ไม่หักพัง เพียงแต่โค้งเท่านั้น และเราสามารถเรียนรู้ที่จะรักอีกครั้งได้Vocabulary Itemscollect (v) = เก็บรวบรวมdust (n) = ฝุ่นenough (adv, adj) = อย่างเพียงพอ เพียงพอfix (v) = แก้ไขhold (v) = กอด ยึด เหนี่ยวไว้just a little bit = เพียงเล็กน้อยเท่านั้นjust a second = แค่วินาทีเดียว เดี๋ยวก่อนlie (v) = นอนpour (v) = เทpretty (adj) = สวยน่ารักreason (n) = เหตุผลrust (n) = สนิมscar (n) = แผลเป็นsteal, stole, stolen (v) = ขโมยtalk in your sleep = พูดละเมอระหว่างการนอนหลับtear duct (n) = ท่อน้ำตาthief (n) = คนขโมยtouch (v,n) = สัมผัส การสัมผัสvictim (n) = เหยื่อwilling (adj) = เต็มใจExpressionsI don't understand. = ฉันไม่เข้าใจI let you see the parts of me, that weren't all that pretty. = ฉันยอมให้คุณเห็นส่วนต่าง ๆ ของฉันที่มันไม่ใช่สวยทั้งหมดI'm sorry. = ฉันขอโทษ Right from the start. = ตั้งแต่เริ่มต้นThere's nothing more than empty sheets between our love. = ไม่มีอะไรมากไปกว่าผ้าปูที่นอนว่างเปล่าระหว่างความรักของเราWe can learn to love again. = เราสามารถเรียนรู้ที่จะรักอีกครั้งได้We'll come clean. = เราจะกลับมาอย่างสะอาดเราจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้We're not broken just bent = เราไม่หักพัง เพียงแต่โค้งเท่านั้นYou used to lie so close to me. = คุณเคยนอนแนบชิดกับฉันมากYour head is running wild againหัวของคุณกำลังทำงานหนักอีกครั้งหนึ่งYou've been talking in your sleep. = คุณกำลังพูดละเมอระหว่างการนอนหลับของคุณ
8 กรกฎาคม 2563     |      383
Lush Life
Lush Life (ชีวิตอุดมสุขZara Larssonแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์[1] I live my day as if it was the last Live my day as if there was no past Doin' it all nite, all summer Doin' it the way I wannaฉันใช้ชีวิตของฉันราวกับว่ามันเป็นวันสุดท้าย ใช้ชีวิตแต่ละวันของฉันราวกับว่าไม่มีอดีต ใช้ชีวิตมันทั้งคืนตลอดฤดูร้อน ใช้มันตามที่ฉันต้องการ[2] Yeah I'mma dance my heart out 'til the dawn But I won't be done when morning comes Doin' it all nite, all summer Gonna spend it like no otherใช่...ฉันจะเต้นรำอย่างสุดเหวี่ยงจนกระทั่งรุ่งเช้า แต่ฉันจะไม่หยุดเมื่อถึงตอนเช้า ใช้ชีวิตมันทั้งคืนตลอดฤดูร้อน จะใช้มันอย่างที่ไม่เหมือนใครIt was a crush But I couldn't, couldn't get enough It was a rush But I gave it upมันเป็นความหลงไหล แต่ฉันไม่สามารถ ไม่สามารถทำได้มากเพียงพอ มันเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ฉันก็ยอมแพ้It was a crush Now I might have went and said too much But that's all it was So I gave it upมันเป็นความหลงไหล ตอนนี้ฉันอาจเคยและพูดมากเกินไป แต่นั่นคือทั้งหมดที่มันเป็น ดังนั้นฉันจึงยอมแพ้[1] [2]It was a crush I kept saying I'mma stay in touch But that thing went bust So I gave it up, oohมันเป็นความหลงไหล ฉันพูดเสมอๆว่าฉันจะต้องติดตามมันเรื่อยๆ แต่สิ่งนั้นก็ยุติลง ดังนั้นฉันจึงยอมแพ้ โอ้...No tricks, no bluff I'm just better off without them cuffs Yeah the sun won't set on usไม่มีกลอุบาย ไม่มีการเสแสร้ง ฉันเพียงทำอย่างนี้ดีกว่าโดยไม่โดนใส่กุญแจมือ ใช่...ดวงอาทิตย์จะไม่ตกที่เรา เราไม่ได้มีความสำคัญมากที่สุดWent low, went high Still waters run dry Gotta get back in the groove I ain't ever worryลดต่ำ ขึ้นสูง น้ำนิ่งยังเหือดแห้ง น้ำต้องกลับเข้ามาในร่องน้ำ ฉันไม่เคยกังวลใจเลยWent low, went high What matters is now Getting right back in the moodลดต่ำ ขึ้นสูง สิ่งที่สำคัญคือขณะนี้ การกลับมาอยู่ในอารมณ์ที่ดี[1] [2][3] Now I've found another crush The lush life's given me a rush Had one chance to make me blush Second time is one too lateตอนนี้ฉันได้พบความสนใจอีกอย่างหนึ่ง ชีวิตนักดื่มทำให้ฉันเร่งรีบ มีโอกาสหนึ่งที่จะทำให้ฉันอาย ครั้งที่สองคือครั้งที่สายเกินไป[3] [1] [2] [3] x 2Vocabulary Itemsall nite/all night = ทั้งคืนall summer = ตลอดฤดูร้อนas if (conj) = ประดุจดั่ง ราวกับว่า be better off = ทำอย่างนี้ดีกว่าbluff (n) = การเสแสร้งblush (v) = อาการอายขายหน้าcrush (n) = ความหลงใหล การบดบี้cuffs (n) = กุญแจมือ ที่ติดกระดุมข้อมือdawn (n) = รุ่งเช้าenough (adv, adj) = อย่างเพียงพอ เพียงพอgive up (v) = ยกเลิก ยอมแพ้gonna = going togroove (n) = ร่องน้ำlust (adj) = มีความสุขล้น มีความอุดมสมบูรณ์ มีเสน่ห์ทางเพศ ดื่มจัดrush (n) = ความเร่งรีบspend (v) = ใช้เวลาtrick (n) = กลอุบายExpressionsBut that's all it wasแต่นั่นคือทั้งหมดที่มันเป็น Dance my heart out = เต้นรำอย่างสุดเหวี่ยงDoin' it the way I wanna = ใช้มันตามที่ฉันต้องการ ทำตามที่ฉันต้องการGetting right back in the mood. = การกลับมาอยู่ในอารมณ์ที่ดีGo bust (v) = ยุติลง ล่มสลาย ล้มละลายI ain't ever worryฉันไม่เคยกังวลใจเลยI'm just better off without them cuffsฉันเพียงทำอย่างนี้ดีกว่าโดยไม่โดนใส่กุญแจมือI'mma dance = I’m going to danceSecond time is one too late. = ครั้งที่สองคือครั้งที่สายเกินไปStay in touch (v) = ติดต่อ ติดตามStill waters run dry. = น้ำนิ่งยังเหือดแห้งThe sun won't set on us. = ดวงอาทิตย์จะไม่ตกที่เรา เราไม่ได้มีความสำคัญมากที่สุดWhat matters is now. = สิ่งที่สำคัญคือขณะนี้
28 ตุลาคม 2563     |      661
Sweet but Psycho
Sweet but Psychoน่ารักแต่ว่าประสาทAva Maxแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์[1] Oh, she’s sweet but a psycho A little bit psycho At night she’s screamin’, “I’m-ma-ma-ma out my mind” Oh, she’s hot but a psycho So left but she’s right though At night she’s screamin’, “I’m-ma-ma-ma out my mind”โอ้...เธอน่ารัก แต่ก็เป็นคนประสาทคนหนึ่ง ประสาทอยู่เล็กน้อย ตอนกลางคืนเธอชอบกรีดร้องว่า ฉันบ้าไปแล้ว โอ้...เธอร้อนแรง แต่ก็เป็นคนประสาทคนหนึ่ง เป็นคยซ้ายสุดโต่ง แต่ว่าเธอก็เป็นคนที่ถูกต้องนะ ตอนกลางคืนเธอชอบกรีดร้องว่า ฉันบ้าไปแล้วShe’ll make you curse, but she a blessing She’ll rip your shirt within a second You’ll be coming back, back for seconds With your plate, you just can’t help itเธอจะทำให้คุณเป็นคนอัปมงคล แต่ว่าเธอคือพรที่ประเสริฐ เธอจะฉีกเสื้อของคุณแค่เพียงใช้เวลานิดเดียว คุณจะกลับมา ใช้เวลานิดเดียวคุณก็จะกลับมา กับสิ่งที่คุณต้องทำ คุณก็แค่หลีกเลี่ยงมันไปไม่ได้[2] No, no You’ll play alo-o-ong, let her lead you o-o-on You’ll be saying, “No, no” Then saying, “Yes, yes, yes,” ’cause she messin’ with your headไม่เลย ไม่ใช่เลย คุณก็จะเล่นไปตามเกมส์ ปล่อยให้เธอเป็นคนนำคุณ คุณจะพูดว่า ไม่ ไม่เอานะ แล้วก็พูดว่า ใช่ ใช่แล้ว ได้เลยเพราะว่าเธอจะปั่นให้หัวคุณหมุน[1][3] Grab a cop gun kinda crazy She’s poison but tasty Yeah, people say, “Run, don’t walk away” ‘Cause she’s sweet but a psycho A little bit psycho At night she screamin’, “I’m-ma-ma-ma out my mind”หยิบฉวยปืนแบบตำรวจขึ้นมาอย่างกับคนบ้า เธอเป็นยาพิษแต่ว่ารสอร่อย ผู้คนต่างบอกว่า วิ่งเลย อย่าเดินหนีไป เพราะว่าเธอน่ารัก แต่ก็เป็นคนประสาทคนหนึ่ง ประสาทอยู่เล็กน้อย ตอนกลางคืนเธอชอบกรีดร้องว่า ฉันบ้าไปแล้วSee, someone said, “Don’t drink her potions She’ll kiss your neck with no emotion When she’s mean, you know you love it She tastes so sweet, don’t sugarcoat it”เห็นไหม บางคนพูดว่า “อย่าได้ดื่มยาแฝดเสน่ห์ของเธอนะ เธอจะจูบที่คอของคุณอย่างไร้อารมณ์ใด ๆ เวลาที่เธอใจร้าย คุณรู้ได้เลยว่า คุณหลงรักมัน รสชาติของเธอช่างแสนหวาน ไม่มีน้ำตาลเคลือบเลย[2] [1] [3]You’re just like me, you’re out your mind I know it’s strange, we’re both the crazy kind You’re tellin’ me that I’m insane Boy, don’t pretend that you don’t love the painคุณก็แค่เหมือนฉัน คุณมันก็บ้า ฉันรู้ว่ามันแปลก แต่เราทั้งคู่ก็เป็นพวกคนบ้า คุณกำลังบอกฉันว่าฉันเสียสติ ที่รัก อย่าเสแสร้งเลยว่าคุณไม่ชอบความเจ็บปวด[1] [3]Vocabulary Itemsa little bit (adj, adv) = เล็กน้อยbe out my mind (adj) = เป็นบ้า ควบคุมตนเองไม่ได้blessing (n) = พรอันประเสริฐcop gun/cop’s gun = ปืนแบบตำรวจใช้ crazy (adj) = บ้า บอ บ๊องส์ เพี้ยนcurse (adj) = อัปมงคลemotion (n) = อารมณ์grab (v) = หยิบฉวย ฉกhot (adj) = ร้อนแรงinsane (adj) = เป็นบ้า เสียสติkinda/kind of (n) = แบบว่า เหมือนกับlead on (v) = นำทาง ชักจูงmean (adj) = ใจดำ ใจร้ายpain (n) = ความเจ็บปวดpoison (n) = ยาพิษpotion (n) = เครื่องดื่มผสมเวทย์มนต์pretend (v) = แสร้งทำpsycho (n) = คนโรคประสาทright (adj) = ถูกต้องrip (v) = ฉีกออกเป็นชิ้นๆscream (v) = กรีดร้องso left (n) = พวกคนซ้ายสุดโต่งsugarcoat (v) = เคลือบน้ำตาลsweet (adj) = น่ารัก สวยหวานtaste (v, n) = มีรสชาติ รส รสชาติtasty (adj) = รสอร่อยwalk away (v) = เดินหนีwith your plate = สิ่งที่คุณต้องทำExpressionsLet her lead you on. = ปล่อยให้เธอเป็นคนนำคุณSo left but she’s right though = เป็นคนซ้ายสุดโต่ง แต่ว่าเธอก็เป็นคนที่ถูกต้องนะYou just can’t help itคุณก็แค่หลีกเลี่ยงมันไปไม่ได้You’ll play along. = คุณก็จะเล่นไปตามเกมส์
8 กรกฎาคม 2563     |      854
Without Me
Without Meไม่มีฉันHalseyแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Found you when your heart was broke I filled your cup until it overflowed Took it so far to keep you close (keep you close) I was afraid to leave you on your ownพบคุณเมื่อหัวใจคุณแตกสลาย ฉันเติมถ้วยของคุณจนถ้วยมันล้น ทำมันเกินมากไปเพื่อให้คุณอยู่ใกล้ (เพื่อให้คุณอยู่ใกล้) ฉันกลัวที่จะทิ้งคุณไปให้คุณอยู่ตามลำพัง[1] I said I'd catch you if you fall And if they laugh, then fuck 'em all (all) And then I got you off your knees Put you right back on your feet Just so you could take advantage of meฉันพูดว่าฉันจะจับไว้คุณถ้าคุณล้มลง และถ้าคนอื่นเขาหัวเราะ ด่าพวกมันไปเลย (ทั้งหมด) แล้วฉันก็ทำให้คุณยืนได้ จับคุณให้ยืนหยัดอยู่บนเท้าของคุณ เพียงแค่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากฉันเท่านั้น[2] Tell me how's it feel sittin' up there Feeling so high but too far away to hold me You know I'm the one who put you up there Name in the sky Does it ever get lonely? Thinking you could live without me Thinking you could live without me Baby, I'm the one who put you up there I don't know why (yeah, I don't know why) Thinking you could live without me Live without me Baby, I'm the one who put you up there I don't know why (I don't know why, yeah yeah)บอกฉันสิว่ามันรู้สึกอย่างไรบ้างที่อยู่สูงตรงนั่น รู้สึกสูงมาก แต่ไกลเกินกว่าที่จะกอดฉัน คุณรู้ว่าฉันเป็นคนที่วางคุณไว้สูงตรงนั่น มีชื่อในท้องฟ้า มันรู้สึกโดดเดี่ยวไหม การคิดว่าคุณจะอยู่ได้โดยปราศจากฉัน การคิดว่าคุณจะอยู่ได้โดยปราศจากฉัน ที่รัก ฉันคือคนที่ทำให้คุณอยู่สูงตรงนั่น ฉันไม่รู้ว่าทำไม (ใช่...ฉันไม่รู้ว่าทำไม) การคิดว่าคุณจะอยู่ได้โดยปราศจากฉัน อยู่ได้โดยไม่มีฉัน ที่รัก ฉันคือคนที่ทำให้คุณอยู่สูงตรงนั่น ฉันไม่รู้ว่าทำไม (ฉันไม่รู้ว่าทำไม ใช่แล้ว ไม่รู้...)Gave love 'bout a hundred tries (hundred tries) Just running from the demons in your mind Then I took yours and made 'em mine (made 'em mine) I didn't notice 'cause my love was blindให้ความรักเป็นร้อยครั้ง (ร้อยครั้ง) เพียงแค่วิ่งจากปีศาจในใจของคุณ จากนั้นฉันก็เอาของคุณมาและทำให้มันเป็นของฉันทำให้มันเป็นของฉัน ฉันไม่ได้สังเกต เพราะว่าความรักของฉันเหมือนคนตาบอด[1][2]You don't have to say just what you did I already know (I know) I had to go and find out from themSo tell me how's it feel (oh-woah)คุณไม่ต้องพูดในสิ่งที่คุณเพิ่งทำ ฉันรู้เรียบร้อยแล้ว ฉันรู้ ฉันต้องไปและค้นหาจากพวกเขา ดังนั้น บอกฉันซิว่ามันรู้สึกอย่างไร?[2]Vocabulary Itemsafraid (adj) = เกรงว่า กลัวว่า'bout/about (prep, adv) = เรื่อง ประมาณbreak, broke, broken (v) = แตก หัก พังทลายdemon (n) = ปีศาจfind out (v) = ค้นหาfind, found, found (v) = พบ เจอfuck 'em all (inj) = ด่าพวกมันไปเลย ย.ม. มันทั้งหมดเลยhold (v) = กอด จับ ยึด เหนี่ยวไว้hundred (n) = จำนวน 100lonely (adj, adv) = โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยว รู้สึกอ้างว้างmind (n) = จิตใจnotice (v) = สังเกตput up (v) = วางไว้ จัดไว้sky (n) = ท้องฟ้าtoo far away = ไกลเกินไป ไกลเกินเอื้อมtries (n) = ความพยายามwithout (prep) = ปราศจากExpressionsI didn't notice because my love was blindฉันไม่ได้สังเกต เพราะว่าความรักของฉันเหมือนคนตาบอดI filled your cup until it overflowedฉันเติมถ้วยของคุณจนถ้วยมันล้น ฉันช่วยเหลือคุณมากเกินกว่าที่ควรธTake it so far. = กระทำมาเกินไปI got you off your kneesฉันก็ทำให้คุณยืนได้I was afraid to leave you on your own. = ฉันกลัวที่จะทิ้งคุณไปให้คุณอยู่ตามลำพังI'd catch you if you fall ฉันจะจับไว้คุณถ้าคุณล้มลง ฉันจะช่วยเหลือคุณเมื่อคุณจำเป็นPut you right back on your feet. = จับคุณให้ยืนหยัดอยู่บนเท้าของคุณTake advantage of me = ใช้ประโยชน์จากฉัน ฉวยโอกาสจากฉัน
8 กรกฎาคม 2563     |      391
Someone You Loved
Someone You Loved (คนที่คุณเคยรักLewis Capaldiแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I'm going under and this time I fear there's no one to save me This all or nothing really got a way of driving me crazy I need somebody to heal Somebody to know Somebody to have Somebody to hold It's easy to say But it's never the same I guess I kinda liked the way you numbed all the painผมกำลังจะหมดสติและคราวนี้ผมกลัวว่าจะไม่มีใครช่วยเหลือผม ทั้งหมดนี้หรือไม่มีอะไรเลยจริงๆที่จะทำให้ผมเป็นบ้า ผมต้องการใครสักคนที่จะรักษาโรค ใครสักคนที่รู้ ใครสักคนที่มี ใครสักคนที่ยึดเหนี่ยว มันง่ายที่จะพูด แต่มันก็ไม่เคยเหมือนเดิมเลย ผมคิดว่าผมชอบวิธีที่คุณรู้สึกชากับความเจ็บปวดทั้งหลาย[1] Now the day bleeds Into nightfall And you're not here To get me through it all I let my guard down And then you pulled the rug I was getting kinda used to being someone you lovedตอนนี้กลางวันกำลังหมดลง กลายเป็นกลางคืน และคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ เพื่อช่วยเหลือผมให้ผ่านพ้นปัญหาทั้งหมดได้ ผมป้องกันตัวเองเข้มงวดน้อยลง แล้วคุณก็ดึงพรมใต้เท้าผมออกไป ผมเคยชินกับการเป็นคนที่คุณเคยรักI'm going under and this time I fear there's no one to turn to This all or nothing way of loving got me sleeping without you Now, I need somebody to know Somebody to heal Somebody to have Just to know how it feels It's easy to say but it's never the same I guess I kinda liked the way you helped me escapeผมจะหมดสติและคราวนี้ผมกลัวว่าจะไม่มีใครที่ผมจะหันหน้าไปพึ่งได้ ทั้งหมดนี้หรือไม่มีวิธีใดเลยของความรักที่จะทำให้ผมนอนหลับได้โดยไม่มีคุณ ตอนนี้ผมต้องการใครสักคนที่รู้ ใครสักคนที่รักษาโรค ใครสักคนที่มี เพียงแค่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร พูดง่าย แต่ก็ไม่เคยเหมือนเดิมเลย ผมคิดว่าผมชอบวิธีที่คุณช่วยผมหลบหนี[1]And I tend to close my eyes when it hurts sometimes I fall into your arms I'll be safe in your sound 'til I come back aroundและผมมักจะหลับตาเมื่อบางครั้งมันเจ็บ ผมตกอยู่ในอ้อมแขนของคุณ ผมจะปลอดภัยในเสียงของคุณจนกว่าผมจะฟื้นสติคืนมา [1] x 2I let my guard down And then you pulled the rug I was getting kinda used to being someone you lovedผมป้องกันตัวเองเข้มงวดน้อยลง แล้วคุณก็ดึงพรมใต้เท้าผมออกไป ผมเคยชินกับการเป็นคนที่คุณเคยรักVocabulary Itemscome back around (v) = ฟื้นสติคืนมาfear (v) = รู้สึกกลัวgo under (v) = หมดสติ จมน้ำheal (v) = รักษาโรคhold (v) = กอด ยึดเหนี่ยวhurt (v) = รู้สึกเจ็บปวดkinda /kind of = แบบว่า อย่างที่ ทำนองนั้นแหละnightfall (n) = การกลายเป็นกลางคืน ตอนพลบค่ำ ตอนเย็น ตอนค่ำnumb (v) = รู้สึกชา ไม่รู้สึกpain (n) = ความเจ็บปวดpull the rug (v) = ดึงพรมที่เท้าออก ชักพรมหนี หยุดให้ความช่วยเหลือทันทีsave (v) = ช่วยชีวิต ช่วยเหลือtend to (v) = มักจะ มีแนวโน้มจะ ExpressionsAnd then you pulled the rug. = แล้วคุณก็ดึงพรมใต้เท้าผมออกไป แล้วคุณก็หยุดความช่วยเหลือผมทันทีBut it's never the same. = แต่มันก็ไม่เคยเหมือนเดิมเลยDrive (someone) crazy (v) = ทำให้บางคนเป็นบ้าI let my guard down. = ผมป้องกันตัวเองเข้มงวดน้อยลง I was getting kinda used to being someone you loved. = ผมเคยชินกับการเป็นคนที่คุณเคยรักIt's easy to say. = มันง่ายที่จะพูด มันพูดได้ง่ายNow the day bleeds. = ตอนนี้กลางวันกำลังหมดลงสีแดงของวันค่อยๆหมดลง เลือดของกลางวันไหลออกTo get me through it all. = เพื่อช่วยเหลือผมให้ผ่านพ้นปัญหาทั้งหมดได้
8 กรกฎาคม 2563     |      924
ทั้งหมด 42 หน้า