Walk Away
Walk AwayจงเดินหนีไปMatt Monroแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Walk away, please go Before you throw your life away A life that I could share for just a day We should have met some years ago For your sake I say Walk away, just goจงเดินหนีไปเสีย โปรดไปเสียเถอะก่อนที่คุณจะทิ้งชีวิตของคุณไปชีวิตซึ่งผมสามารถที่จะมีส่วนร่วมได้เพียงวันเดียวเท่านั้นเราควรจะได้พบกันก่อนหน้านี้หลายปีมาแล้วเพื่อเห็นแก่คุณ ผมพูดว่าจงเดินหนีไปเสีย (ไม่ต้องทำอะไรไปเลยWalk away, and live A life that's full With no regret Don't look back at me Just try to forget Why build a dream that cannot come true So be strong, reach the stars now Walk away, walk onจงเดินหนีไปเสีย และมีชีวิตอยู่กับชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปกับการไม่มีความทุกข์อย่าหันกลับมามองที่ผมเพียงแต่จงพยายามลืมทำไมสร้างความหวังที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ดังนั้น จงเข้มแข็ง จงเอื้อมสู่ดวงดาวเสียตอนนี้จงเดินหนีไปเสีย เดินต่อไปIf I heard your voice I'd beg you to stay So, don't say a word Just run, run awayถ้าผมได้ยินเสียงคุณผมคงจะขอร้องให้คุณอยู่ดังนั้น จงอย่าเอ่ยปากพูดสักคำเพียงแต่วิ่ง วิ่งหนีไปเสียGoodbye my love My tears will fall Now that you've gone I can't help but cry But I must go on I'm sad that I have been searchin’ so long You, I love you but told you Walk away, walk on, walk onลาก่อน ที่รักของผมน้ำตาผมจะไหลตอนนี้ที่คุณจากไปผมอดไม่ได้นอกจากร้องไห้แต่ผมจะต้องดำเนินชีวิตต่อไปผมเศร้าที่ผมได้เพียรค้นหา(คุณเป็นเวลายาวนานคุณ ผมรักคุณ แต่ผมได้บอกคุณว่าจงเดินหนีไปเสีย เดินต่อไป เดินต่อไปVocabulary Itemsbeg (v) = ขอร้องbeggar (n) = คนขอทานjust (adv) = เท่านั้น เพียงแต่ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากjust go = เพียงแต่จากไปjust run = เพียงแต่วิ่งjust try = เพียงแต่พยายามjust walk away = เพียงแต่เดินหนีไปsearchin’ = searchingso long = very longwalk on = เดินต่อไปExpressionsFor the sake of + n = เพื่อ เพื่อเห็นแก่ เพื่อเป็นเกียรติกับ ตัวอย่างเช่นI did what I did for the sake of the child. =ฉันทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อเห็นแก่ลูกAll for the sake of the country. = ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติI beg you, for the sake of my career, to return what you took.= เพื่อเห็นแก่อาชีพการงานของฉัน ฉันขอให้คุณคืนสิ่งที่เอาไปมาFor the sake of their children, parents give up their lives. = เพื่อเห็นแก่ลูกๆ พ่อแม่สละชีวิตให้ได้This is for the sake of national security. = นี่เป็นไปเพื่อความมั่นคงของชาติFor your sake, I say “Go away.” = เพื่อเห็นแก่คุณ ผมพูดว่า จงหนีไปเถอะนะFor God’s sake, I hate him. = เพื่อเห็นแก่พระเจ้า ผมเกลียดเขาI can’t help but cry. = ผมอดไม่ได้นอกจากร้องไห้I can’t help crying. = ผมอดร้องไห้ไม่ได้GrammarPresent Perfect Progressive (Continuous) Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์กำลังดำเนินอยู่ เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แล้วยังเกิดติดต่อกันเรื่อยมาถึงปัจจุบันเป็นเวลายาวนาน เช่นI have been searching for you so long. ผมได้เพียรค้นหาคุณเป็นเวลายาวนานประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3 (Present impossible conditions) คือ สมมุติว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ไม่เป็นจริง หรือเป็นจริงไม่ได้ เช่นIf + Simple Past Tense, S + would + V (OR Past in the Future)If I heard your voice, I would beg you to stay.If I won the first prize of lottery, I would buy a new car.ประโยคปริกัลบมาลา (Subjunctive Mood) คือประโยคที่แสดงความปรารถนา เสนอแนะ สั่งการ หรือเงื่อนไขที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง หรือไม่เป็นจริง หรือเป็นจริงไม่ได้ เช่นก.       Impossible Present Subjunctive Moodคือประโยคที่แสดงความปรารถนา เสนอแนะ สั่งการ หรือเงื่อนไขที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง หรือไม่เป็นจริง หรือเป็นจริงไม่ได้ในปัจจุบัน มีโครงสร้างเป็นS + should/could/would/were or Simple Verb  หรือประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3 (Impossible Present Conditional Sentence) คือIf + S + Past Verb, S + should/could/would/เช่นA life that I could share for just a dayIf I were in your position, I would do the same.I wish she were/was here with us now.I suggest that John work full time from Saturday.It was essential that John guard the money box.I command that the game begin at once.ข. Impossible Past Subjunctive Moodคือประโยคที่แสดงความปรารถนา เสนอแนะ สั่งการ หรือเงื่อนไขที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง หรือไม่เป็นจริง หรือเป็นจริงไม่ได้ในอดีต เช่นมีโครงสร้างประโยคเป็นS + should have + (past participle)หรือประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 4 (Impossible Past Conditional Sentence) นั่นเองเพื่อบ่งบอกว่าบางอย่างควรจะได้ทำแล้วในอดีต แต่ว่าไม่ได้ทำ เช่นWe should have met some years agoI should have gone with you.I should have studied more for my test if I had been at home.คำพูดเชิงปรัชญาประโยคที่เศร้าที่สุดคือประโยคที่มีคำว่า ควรจะ อยู่ด้วยThe saddest sentence is the one with the words “should or should have.”และอาจใช้เป็นอนุประโยคหนึ่งในประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 4 คือ (Past impossible conditions) คือ สมมุติว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ไม่เป็นจริง หรือเป็นจริงไม่ได้ เช่นI should have married her if had won the first prize of lottery I should have eaten breakfast this morning if I had got up earlier.
18 พฤษภาคม 2563     |      531
Venus
Venus (เทพีวีนัสFrankie Avalon แปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Hey, Venus Oh, Venus Venus, if you will Please send a little girl for me to thrill A girl who wants my kisses and my arms A girl with all the charms of you            สวัสดี เทพีวีนัสโอ้...เทพีวีนัส            ท่านเทพีวีนัส ถ้าท่านจะกรุณา            โปรดส่งหญิงสาวร่างเล็กมาให้ผมได้รู้สึกตื่นเต้นสักคนเถิด            หญิงสาวที่ต้องการการจุมพิตของผมและอ้อมแขนของผม            หญิงสาวที่มีเสน่ห์ทุกอย่างของท่านVenus, make her fair A lovely girl with sunlight in her hair And take the brightest stars up in the skies And place them in her eyes for me            ท่านเทพีวีนัสครับ เสกให้ผิวของเธอขาวนะ            หญิงสาวที่น่ารักพร้อมเรือนผมสีน้ำตาลแดงและนำดวงดาวที่สุดสว่างที่สุดในท้องฟ้า            และมาใส่เป็นดวงตาของเธอสำหรับผมVenus, goddess of love that you are (=you are goddess of Love) Surely the things I ask Can't be too great a taskเทพีวีนัสครับ ท่านคือเทพเจ้าแห่งความรักแน่นอนล่ะ สิ่งทั้งหลายที่ผมอ้อนวอนขอคงไม่ใช่งานหนักเกินไปสำหรับท่านVenus, if you do I promise that I always will be true I'll give her all the love I have to give As long as we both shall liveเทพีวีนัสครับ ถ้าท่านทำได้            ผมสัญญาว่า ผมจะซื่อสัตย์เสมอ            ผมจะให้ความรักทั้งหมดที่ผมจำเป็นต้องให้แก่เธอ            ตราบเท่าที่เราทั้งสองยังพึงมีชีวิตอยู่Venus, goddess of love that you are Surely the things I ask Can't be too great a taskเทพีวีนัสครับ ท่านคือเทพเจ้าแห่งความรักแน่นอนล่ะ สิ่งทั้งหลายที่ผมอ้อนวอนขอคงไม่ใช่งานหนักเกินไปสำหรับท่านVenus if you do I promise that I always will be true I'll give her all the love I have to give As long as we both shall liveเทพีวีนัสครับ ถ้าท่านทำได้            ผมสัญญาว่า ผมจะซื่อสัตย์เสมอ            ผมจะให้ความรักทั้งหมดที่ผมจำเป็นต้องให้แก่เธอ            ตราบเท่าที่เราทั้งสองยังพึงมีชีวิตอยู่Hey, Venus Oh, Venus Make my wish come true            สวัสดี เทพีวีนัสโอ้...เทพีวีนัสจงช่วยทำให้ความปรารถนาของผมเป็นจริงด้วยเถิดVocabulary ItemsAs long as นานเท่าที่...(adv.)I will love you as long as I am alive.I will love you as long as you love me.come true = เป็นจริงPlease make my wish come true.Please let me go. = ขอให้ ขออนุญาตให้Please let the King live long. = Long live the King.If you do = ถ้าทำเช่นนั้นแล้วTo morrow, please take your food to the picnic and don’t forget your tent too.            If you do (so), don’t forget your blanket.Venus, if you will please send a little girl for me to thrill= Venus, will you please send a little girl for me to thrill, won’t you?Will you please come over here, (won’t you?)= Please come over here.= Come over here.
18 พฤษภาคม 2563     |      167
Try To Remember
Try To RememberพยายามจดจำBrothers Fourแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Try to remember the kind of September When life was slow and oh, so mellow Try to remember the kind of September When grass was green and grain was yellow Try to remember the kind of September When you were a tender and callow fellow Try to remember and if you remember Then follow, follow.พยายามจดจำว่าเดือนกันยายนเป็นอย่างไรเมื่อชีวิตมันช้าลง และ โอ้ เงียบสงบลงมากพยายามจดจำว่าเดือนกันยายนเป็นอย่างไรเมื่อหญ้าเป็นสีเขียวและธัญพืชเป็นสีเหลืองพยายามจดจำว่าเดือนกันยายนเป็นอย่างไรเมื่อคุณสุภาพอ่อนน้อมและเป็นคนเยาว์วัยไร้เดียงสาจงพยายามจดจำ และถ้าคุณจำได้แล้วละก้อ จงทำตาม จงทำตามอย่างTry to remember when life was so tender That no one wept except the willow Try to remember the time of September When love was an ember about to billow Try to remember and if you remember Then follow, follow.พยายามจดจำเมื่อชีวิตยังอ่อนเยาว์มากจนกระทั่งไม่มีใครร้องไห้ ยกเว้นต้นหลิวพยายามจดจำเวลาในเดือนกันยายนเมื่อความรักเป็นถ่านไฟที่ยังคุกกรุ่นและพร้อมที่จะลุกไหม้จงพยายามจดจำ และถ้าคุณจำได้แล้วละก้อ จงทำตาม จงทำตามอย่างDeep in December It's nice to remember Although you know the snow will follow Deep in December It's nice to remember The fire of September that made us mellow Deep in December our hearts should remember And follow, follow, follow...ในราวกลางเดือนธันวาคม มันเป็นการดีที่จะจดจำแม้ว่าคุณรู้ว่าหิมะจะตามมาในราวกลางเดือนธันวาคม มันเป็นการดีที่จะจดจำไฟในเดือนกันยายนที่ทำให้เราเงียบสงบในราวกลางเดือนธันวาคมหัวใจของเราควรจะจดจำและจงทำตาม จงทำตาม จงทำตามอย่างVocabulary Itemsbillow (v) = ลุกเป็นไฟ ติดไฟcallow (adj) = ไร้เดียงสา อ่อนประสบการณ์deep (n) = ประมาณกึ่งกลางember (n) = ถ่านไฟที่ยังมีความร้อนอยู่except (conj) = ยกเว้นfellow (n) = เพื่อนfollow (v) = ติดตาม ทำตามอย่างgrain (n) = ธัญพืชkind of (n) = แบบว่า ชนิด แบบอย่างmellow (adj) = เงียบสงบremember (v) = จดจำtender (adj) = อ่อนนุ่ม เยาวัยtry (v) = พยายามwillow (n) = ต้นหลิวweep (v) = ร้องไห้ExpressionsDeep in December our hearts should remember.If you remember, then follow, follow.No one wept except the willow.GrammarSimple Present Tenseปัจจุบันกาลธรรมดา เพื่อใช้บ่งบอกว่า เหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นปกติวิสัยในขณะที่พูด หรือเกิดขึ้นบ่อยๆเป็นประจำ เช่นTry to remember the kind of September.Deep in December, it's nice to remember. Simple Past Tenseอดีตกาลธรรมดา เพื่อใช้บ่งบอกว่า เหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดแล้ว เช่นWhen life was slow and oh, so mellow.When grass was green and grain was yellow. Simple Future Tense (อนาคตกาลธรรมดา เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นAlthough you know the snow will follow. Subjunctive Moodปริกัลบมาลาคือประโยคที่แสดงความต้องการ ความปรารถนา แนะนำ ตักเตือน เชิญชวน ขอร้อง หรือแสดงเงื่อนไขสมมติ ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง โครงสร้างประโยคCould/would/might/should + simple verb in Present TenseCould/would/might/should + have + p.p. (past participle) verb in Past Tense เช่นDeep in December our hearts should remember
18 พฤษภาคม 2563     |      190
Travelin’ Man
Travelin’ ManนักเดินทางRick Neilsonแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์I'm a travelin' man Made a lot of stops all over the world And in every port I own the heart Of at least one lovely girlผมเป็นนักเดินทางหยุดพักมากมายทั่วทั้งโลกและทุกแห่งที่หยุด ผมก็เป็นเจ้าของหัวใจผู้หญิงที่น่ารักอย่างน้อยหนึ่งคนI've a pretty Seniorita waiting for me Down in old Mexico If you're ever in Alaska stop and see My cute little Eskimoผมมี Seniorita ที่น่ารักรอคอยอยู่ทางตอนใต้ของเมือง Mexico เดิมถ้าคุณเคยไป Alaska ลองหยุดและจะเห็นEskimo ตัวเล็กๆที่น่ารักของผมOh, my sweet Fraulien down in Berlin town Makes my heart start to yearn (=to want it really bad) And my China doll down in old Hong Kong Waits for my returnโอ้... Fraulien หวานใจของผมอยู่ตอนใต้ของกรุง Berlinทำให้หัวใจของผมเริ่มถวิลหามากและสาวตุ๊กตาจีนของผมอยู่ตอนใต้ของเมือง Hong Kong เก่ารอคอยให้ผมกลับไปPretty Polynesian baby, over the sea I remember the night When we walked in the sand of Waikiki And I held you, oh, so tightคนรักที่น่ารักชาว Polynesia อยู่โพ้นทะเลผมจดจำคืนนั้นเมื่อเราเดินบนทรายของหาด Waikikiและผมได้กอดคุณ โอ้..อย่างแนบแน่นมากOh, my sweet Fraulien down in Berlin town Makes my heart start to yearn And my China doll down in old Hong Kong Waits for my returnโอ้... Fraulien หวานใจของผมอยู่ตอนใต้ของกรุง Berlinทำให้หัวใจของผมเริ่มถวิลหามากและสาวตุ๊กตาจีนของผมอยู่ตอนใต้ของเมือง Hong Kong เก่ารอคอยให้ผมกลับไปPretty Polynesian baby, over the sea I remember the night When we walked in the sand of Waikiki And I held you, oh, so tightคนรักที่น่ารักชาว Polynesia อยู่โพ้นทะเลผมจดจำคืนนั้นเมื่อเราเดินบนทรายของหาด Waikikiและผมได้กอดคุณ โอ้..อย่างแนบแน่นมากOh, I'm a travelin' man Yes, I'm a travelin' man Yes, I'm a travelin' man Whoa, I'm a travelin' man (Whoa = to express surprise, amazement, or great pleasure)โอ้...ผมเป็นนักเดินทางใช่...ผมเป็นนักเดินทางใช่...ผมเป็นนักเดินทางโอ้โฮ้...ผมเป็นนักเดินทางVocabulary Itemsat least (adv) = อย่างน้อยcute (adj) = น่าถนุถนอมdoll (n) = ตุ๊กตาlovely (adj) = สวยน่ารักport (n) = ท่าเรือpretty (adj) = น่ารักremember (v) = จดจำreturn (v) = กลับมาsand (n) = ทรายtight (adj) = แน่นtown (n) = เมืองtravel (v) = เดินทางyearn (v) = ต้องการมากWaikiki เป็นสถานที่ตากอากาศชายทะเลบนเกาะโอวาฮู ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา มีหาดไวกีกีที่มีชื่อเสียง มีแนวชายฝั่งที่มีทรายขาว และมีการเล่นกระดานโต้คลื่น
18 พฤษภาคม 2563     |      425
Too Young
Too Young (เยาว์วัยเกินไปNat King Cole แปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์They try to tell us we're too young Too young to really be in love They say that love's a word A word we've only heard But can't begin to know the meaning ofพวกเขาพยายามบอกเราว่า เราอายุน้อยเกินไปอายุน้อยเกินกว่าที่จะรักกันอย่างจริงจังพวกเขาพูดว่า ความรักเป็นเพียงคำพูดคำพูดที่เราเคยได้ยินมานานแล้วเท่านั้นแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นรู้ความหมายของมันได้And yet we're not too young to know This love will last though years may go And then some day they may recall We were not too young at allและ แต่ว่าเราไม่ได้อายุน้อยเกินไปที่จะรู้ว่าความรักนี้จะสิ้นสุดลงได้เมื่อเวลาผ่านไปและแล้ว วันหนึ่งพวกเขาอาจจะนึกขึ้นได้ว่าเราไม่ได้อายุน้อยเกินไปเลยAnd yet we're not too young to know This love will last though years may go And then some day they may recall We were not too young at allและ แต่ว่าเราไม่ได้อายุน้อยเกินไปที่จะรู้ว่าความรักนี้จะนิรันดร์แม้ว่าเวลาอาจผ่านไปและแล้ว วันหนึ่งพวกเขาอาจจะนึกขึ้นได้ว่าเราไม่ได้อายุน้อยเกินไปเลย Vocabulary Itemsalthough, even though, though (conj) = ถึงแม้ว่า แม้ว่าlast (v) = ดำเนินต่อไป นิรันดร์ สิ้นสุดreally (adv) = อย่างแท้จริง จริงๆแล้วrecall (v) = ระลึกได้the meaning of = ความหมายของtoo young = อายุน้อยเกินไป เยาว์วัยเกินไปExpressionsThis love will last though years may go.We were not too young at all.Too young to really be in love.Too young to be really in love.Too young to be in love reallyGrammar1. Present Perfect Tenseปัจจุบันกาลสมบูรณ์ เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แล้วยังเกิดติดต่อกันเรื่อยมาถึงปัจจุบัน เช่นA word we have only heard. คำพูดที่เราเคยได้ยินมานานแล้วเท่านั้นI have found my world in you. ผมได้พบโลกของผมในตัวคุณมานานแล้ว2. Simple Past Tenseอดีตกาลอย่างง่าย เพื่อบ่งบอกเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดแล้วในอดีต เช่นWe were not too young at all. เราไม่ได้อายุน้อยเกินไปเลย3. Simple Future Tenseอนาคตกาลอย่างง่าย เพื่อบ่งบอกเหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นThis love will last though years may go. ความรักนี้จะนิรันดร์แม้ว่าเวลาอาจผ่านไป
18 พฤษภาคม 2563     |      850
Tom Dooley
Tom Dooley (ทอม ดูลี่The Kingston Trio แปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Throughout history There've been many songs written about the eternal triangle (or “Love Triangle” รัก 3 เส้า This next one tells the story of a Mr Grayson, a beautiful woman And a condemned man named Tom Dooley... When the sun rises tomorrow, Tom Dooley must hang.ตลอดประวัติศาสตร์มีเพลงจำนวนมากที่เขียนขึ้นเป็นเรื่องรัก 3 เส้าเพลงต่อไปนี้บอกเรื่องราวของ นายเกรสัน หญิงสาวคนหนึ่งและผู้ชายที่ถูกสาปแช่งชื่อ ทอม ดูลี่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้ ทอมจะต้องถูกแขวนคอHang down your head, Tom Dooley Hang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to die ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายI met her on the mountain There I took her life Met her on the mountain Stabbed her with my knifeผมพบหล่อนที่บนภูเขาณ ที่นั้น ผมคร่าชีวิตเธอพบเธอที่บนภูเขาผมแทงเธอด้วยมีดของผมHang down your head, Tom DooleyHang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to dieห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายThis time tomorrow Reckon where I'll be (to think) Hadn't a-been for Grayson (Had not had been…)= If it hadn't been for Grayson, I'd a-been in Tennessee (I would have been…)            เวลานี้ของวันพรุ่งนี้            คิดดูว่าฉันจะอยู่ที่ไหนถ้ามันไม่ใช่เพราะนายเกรสันละก้อ            ฉันคงจะได้ไปถึงรัฐ Tennessee แล้วHang down your head, Tom Dooley Hang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to dieห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายHang down your head, Tom Dooley Hang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to dieห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายThis time tomorrow Reckon where I'll be Down in some lonesome valley Hangin' from a white oak treeเวลานี้ของวันพรุ่งนี้            คิดดูว่าฉันจะอยู่ที่ไหนอยู่ลึกในหุบเขาที่โดดเดี่ยวสักแห่งหนึ่ง            แขวนห้อยอยู่จากต้นโอ๊คสีขาวHang down your head, Tom Dooley Hang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to dieห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายHang down your head, Tom Dooley Hang down your head and cry Hang down your head, Tom Dooley Poor boy, you're bound to dieห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่ห้อยหัวของเจ้าลงและร้องไห้ห้อยหัวของเจ้าลง ทอม ดูลี่เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายPoor boy, you're bound to die Poor boy you're bound to die Poor boy, you're bound to die...เด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายเด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายเด็กที่น่าสงสารเอ๋ย เจ้าถูกตัดสินให้ตายVocabulary Itemsbeautiful (adj) = สวยงามbind, bound to (v, pp) = ถูกเรียกร้อง ถูกศาลตัดสินcondemned man (n) = คนที่ได้รับการสาปแช่งdie (v) = ตายeternal triangle, love triangle (n) = รัก 3 เส้าhang (v) = แขวนคอhang down your head. = ห้อยหัวคุณลงมาhistory (n) = ประวัติศาสตร์knife (n) = มีดlonesome (adj) = โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวmountain (n) m= ภูเขาoak tree (n) = ต้นโอ๊คpoor (adj) = น่าสงสารreckon (v) = คิดถึง คิดดูrise (v) = ขึ้นstab (v) = แทงthroughout (adv) = ตลอดto bind = to require, determined by law adj)white (adj, n) = ขาว สีขาวExpressionsHadn't a-been for grayson = had not had been…= if it hadn't been for Grayson =ถ้ามันไม่ใช่เพราะนายเกรสันละก้อI'd a-been in Tennessee = I would have been in Tennessee.= ฉันคงจะได้ไปถึงรัฐ Tennessee แล้วGrammarการสลับตำแหน่งของคำในประโยคเงื่อนไข (Inversion in conditional sentences)การสลับตำแหน่งคำในประโยคเงื่อนไขใช้ในภาษาเขียนเท่านั้นเพื่อให้มีความหมายสุภาพมากขึ้น และมีหลายรูปแบบ แล้วแต่ชนิดของประโยคเงื่อนไขดังต่อไปนี้ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 1เงื่อนไขที่เป็นไปได้ในปัจจุบันใช้คำกริยาช่วย should หรือ would นำหน้ากริยาแท้ในอนุประโยคเงื่อนไข และสามารถตัดคำว่า if ออกจากประโยคได้ เช่นIf you come here, please tell me.If you would come here, please tell me.Would you come here, please tell me.If you have any questions, just ask me.If you should have any questions, just ask me.Should you have any questions, just ask me.ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 2เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันใช้คำกริยาที่เป็น Simple past (คำกริยาช่องที่ 2 นำหน้าอนุประโยคเงื่อนไข และตัดคำว่า if ออกจากประโยค เช่นIf I were you, I would not do that.Were I you, I would not do that.If I were taller, I would be happier.Were I taller, I would be happier.If she really loved me, I would marry her now.Loved me she really, I would marry her now.ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ในอดีตใช้คำกริยา Had นำหน้าอนุประโยคเงื่อนไข และตัดคำว่า if ออกจากประโยค เช่นIf I had known about his bad behavior sooner, I should not have hired him. >Had I known about his bad behavior sooner, I should not have hired himIf the people had not been informed, the situation would have been much worse.Had the people not been informed, the situation would have been much worse.เบื้องหลังเพลงเพลงนี้แต่งขึ้นจากเรื่องจริงจากเรื่องรัก 3 เส้าระหว่างชาย 1 คนคือ Thomas C. Dula ซึ่งเกิดเมื่อ June 20, 1844 ที่เมืองเล็กๆชื่อ Reedy Branch ในรัฐ North Carolina กับหญิง 2 คน คือ Laura Foster และ Ann Foster Melton ซึ่งมีสามีแล้ว Thomas C. Dula เคยเป็นทหารเกณฑ์และไปรบในสงครามกลางเมืองของอเมริกา เขาเป็นคนเจ้าชู้และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงหลายคน รวมทั้งหญิงทั้ง 2 คนด้วยต่อมา Laura Foster หายสาปสูญไปบนภูเขาเมื่อวันที่ May 25, 1866 และไม่มีคนพบศพ แต่มีพยานเห็นว่าเธอไปกับ Thomas C. Dula ผู้ซึ่งหนีไปอยู่ที่รัฐ Tennessee โดยการเดินเท้าไป และไปทำงานให้กับ Col. James W.M. Grayson (Colonel = พันเอกต่อมามีคนพบศพ Laura Foster ฝังอยู่ในป่า มีร่องรอยถูกแทงที่ราวนม และกำลังตั้งท้อง เจ้าหน้าที่ของเมืองจึงส่งคนไปค้นหา Thomas C. Dula ซึ่งก็หนีต่อไป แต่ว่า Col. James W.M. Grayson ก็สามารถจับเขาส่งมาขึ้นศาล ณ เมืองที่เกิดเหตุได้Thomas C. Dula สารภาพว่าเขาฆ่า Laura Foster ตามลำพังเพราะเธอปล่อยเชื้อ syphilis ให้เขา เขาจึงต้องการแก้แค้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมีการค้นพบภายหลังว่า คนที่ปล่อยเชื้อ syphilis ให้เขาคือ Pauline Foster ซึ่งเป็นญาติห่างๆของ Ann Melton แล้ว Thomas C. Dula เอาเชื้อไปติดให้กับ Laura Foster และ Ann Melton เองหลายคนเชื่อว่า คนที่ฆ่า Laura Foster คือ Ann Melton เพราะว่าเธอหลงรัก Thomas C. Dula และรู้สึกอิจฉา Laura Foster รวมทั้งแค้นเธอเพราะคิดว่าเธอคือคนต้นเหตุที่ปล่อยเชื้อ syphilis ให้เธอด้วยThomas C. Dula ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกแขวนคอเมื่อ May I, 1868 ณ ลานประหารที่สร้างขึ้นใหม่ที่เมือง Statesville ไม่ใช่แขวนจากต้นโอ๊คสีขาวอย่างที่ปรากฏในเพลง ส่วน Ann Melton ถูกขึ้นศาล แต่ศาลไม่ได้ตัดสินลงโทษเธอเพราะคำสารภาพของ Thomas C. Dula ช่วยให้เธอพ้นผิด
18 พฤษภาคม 2563     |      979
Today
Today (วันนี้The New Christy Minstrelsแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Today, while the blossom still clings to the vine I'll taste your strawberries, I'll drink your sweet wine A million tomorrows shall all pass away 'Ere I forget all the joys that is mine todayวันนี้ ในขณะที่ดอกไม้ดอกเล็กๆยังคงห้อยติดอยู่กับเถาวัลย์ผมจะชิมสตอร์เบอร์รี่ของคุณ ผมจะดื่มเหล้าไวน์หวานของคุณวันรุ่งขึ้นอีกมากมาย (อนาคตอันยาวไกล จะผ่านเลยหายไปก่อนหน้านั้นผมลืมความหรรษาทั้งหลายที่เป็นของผมในวันนี้I'll be a dandy and I'll be a rover You'll know who I am by the songs that I sing I'll feast at your table, I'll sleep in your clover Who cares what tomorrow shall bringผมจะเป็นคนสำอางและผมจะเป็นคนพเนจร คุณจะรู้ว่าผมคือใครจากเสียงเพลงที่ผมร้องผมจะกินเลี้ยงที่โต๊ะของคุณ ผมจะนอนในที่หรูหราของคุณใครจะสนใจล่ะว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น?Today while the blossom still clings to the vine I'll taste your strawberries, I'll drink your sweet wineวันนี้ ในขณะที่ดอกไม้ดอกเล็กๆยังคงห้อยติดอยู่กับเถาวัลย์ผมจะชิมสตอร์เบอรรี่ของคุณ ผมจะดื่มเหล้าไวน์หวานของคุณI can't be contented with yesterday's glory (=pleased, satisfied) I can't live on promises winter to spring Today is my moment and now is my story I'll laugh and I'll cry and I'll sleepผมไม่สามารถที่จะพึงพอใจกับความรุ่งโรจน์ของเมื่อวานนี้ (อดีตผมไม่สามารถมีชีวิตอยู่กับคำสัญญาจากฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิได้วันนี้ คือเวลาของผม และปัจจุบันนี้คือเรื่องราวของผมผมจะหัวเราะ และผมจะร้องไห้ และผมจะนอนหลับToday while the blossom still clings to the vine I'll taste your strawberries I'll drink your sweet wine A million tomorrows shall all pass away 'Ere I forget all the joy that is mine todayวันนี้ ในขณะที่ดอกไม้ดอกเล็กๆยังคงห้อยติดอยู่กับเถาวัลย์ผมจะชิมสตอร์เบอร์รี่ของคุณ ผมจะดื่มเหล้าไวน์หวานของคุณวันรุ่งขึ้นอีกมากมาย (อนาคตอันยาวไกล จะผ่านเลยหายไปก่อนหน้านั้นผมลืมความหรรษาทั้งหลายที่เป็นของผมในวันนี้ Vocabulary Itemsblossom (n) = ดอกไม้ดอกเล็กๆ ดอกไม้บานcare (v) = สนใจใยดีcling (v) = ห้อย แขวนclover (n) = ที่หรูหรา พืชตระกูลถั่วที่มีใบ 4 แฉกcontented (pp) = พึงพอใจdandy (n) = คนสำอางere (before) prep = ก่อนหน้านั้นlive on (v) = มีชีวิตอยู่million tomorrows (n) = วันรุ่งขึ้นอีกมากมาย อนาคตอันยาวไกลpass away (v) = ผ่านเลยหายไปpromise (v, n) = สัญญา คำสัญญาrover (n) = คนพเนจรspring (n) = ฤดูใบไม้ผลิstrawberry (n) = ผลสตอร์เบอรรี่sweet (adj) = หวานtaste (v, n) = ชิม รสชาติvine (n) = เถาวัลย์wine (n) = เหล้าไวน์winter (n) = ฤดูหนาวyesterday's glory (n) = ความรุ่งโรจน์ของเมื่อวานนี้ อดีตfeast (v, n) = กินเลี้ยง งานเลี้ยงฉลอง
18 พฤษภาคม 2563     |      218
Till The End of Time
Till The End of Time (จวบจนเวลาอวสานPerry Comoแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Till the end of time Long as stars are in the blue Long as there's a spring, a bird to sing I'll go on loving youจวบจนเวลาอวสานนานตราบเท่าที่ดวงดาวอยู่บนท้องฟ้านานตราบเท่าที่มีฤดูใบไม้ผลิ มีนกส่งเสียงร้องผมก็จะยังรักคุณอยู่ต่อไปTill the end of time Long as roses bloom in May My love for you will grow deeper With every passing dayจวบจนเวลาอวสานนานตราบเท่าที่กุหลาบออกดอกในเดือนกรกฎาคมความรักที่ผมมีต่อคุณก็จะลึกซึ้งมากขึ้นตามวันเวลาที่กำลังผ่านไป[1] Till the wells run dry And each mountain disappears I'll be there for you, to care for you Through laughter and through tearsจนกว่าบ่อน้ำจะเหือดแห้งและภูเขาแต่ละลูกจะหายไปผมจะอยู่ที่นั่นเพื่อคุณ เพื่อดูแลเอาใจใส่คุณทั้งยามมีเสียงหัวเราะ (ความสุขและมีน้ำตา ความทุกข์ยาก[2] So take my heart in sweet surrender And tenderly say that I'm The one you love and live for Till the end of timeดังนั้น จงเอาหัวใจผมไปเพราะผมยอมแพ้แต่โดยดีและพูดอย่างนุ่มนวลว่าผมคือคนที่คุณรักและคุณมีชีวิตอยู่เพื่อผมจวบจนกระทั่งเวลาอวสาน[1][2]Vocabulary Itemsbloom (v) = ออกดอกcare for someone (v) = สนใจใยดีบางคนdisappear (v) = หายไปevery passing day = ทุกวันที่กำลังผ่านไปgo on + v-ing (v) = ดำเนินอยู่ต่อไปlaughter (n) = เสียงหัวเราะ ความสุขlong as = นานตราบเท่าmountain (n) = ภูเขาrun dry (v) = เหือดแห้งหายไปspring (n) = ฤดูใบไม้ผลิstar (n) = ดวงดาวsweet surrender (n) = ยอมแพ้แต่โดยดีtears = น้ำตา ความทุกข์ยากtenderly (adv) = อย่างนิ่มนวลthe blue (n) = ท้องฟ้าthe end of time = เวลาอวสานtill (adv) = จวบจน จนกระทั่งwell (n) = บ่อน้ำ
18 พฤษภาคม 2563     |      186
Tie A Yellow Ribbon ('Round The Ole Oak Tree)
Tie A Yellow Ribbon'Round The Ole Oak Treeผูกริบบิ้นสีเหลือง รอบต้นโอ๊คเดิมTony Orlando and Dawnแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์I'm comin' home, I've done my time Now I've got to know what is and isn't mine If you received my letter telling you I'd soon be free Then you'll know just what to do If you still want me, if you still want meผมกำลังกลับบ้าน ผมได้ชดใช้ความผิดของผมแล้ว            ตอนนี้ ผมจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าอะไรเป็นของผมและอะไรไม่ใช่            ถ้าคุณได้รับจดหมายผมที่บอกคุณว่าอีกไม่นานผมก็จะเป็นอิสระ            แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณจะต้องทำอะไรที่แน่ๆบ้าง            ถ้าคุณยังต้องการผม ถ้าคุณยังต้องการผมWhoa, tie a yellow ribbon round the ole oak tree It's been three long years, do you still want me? If I don't see a ribbon round the ole oak tree I'll stay on the bus, forget about us, put the blame on me If I don't see a yellow ribbon round the ole oak treeโอ้...จงผูกริบบิ้นสีเหลืองรอบต้นโอ๊คเดิม            มันเป็นเวลา 3 ปีที่ยาวนาน คุณยังคงต้องการผมอยู่หรือเปล่า?            ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผมจะอยู่บนรถโดยสาร ลืมเรื่องของเรา จงตำหนิผม            ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นสีเหลืองรอบต้นโอ๊คเดิมBus driver, please look for me 'Cause I couldn't bear to see what I might see I'm really still in prison and my love, she holds the key A simple yellow ribbon's what I need to set me free And I wrote and told her pleaseคนขับรถโดยสาร โปรดมองดูที่ผม            เพราะว่าผมไม่สามารถจะทนดูสิ่งที่ผมอาจจะเห็นได้            ผมยังคงอยู่ในคุกจริงๆและคนรักของผม หล่อนถือกุญแจ (หล่อนคือผู้กุมชะตากรรมริบบิ้นสีเหลืองเท่านั้นคือส่งที่ผมต้องการเพื่อให้ผมเป็นอิสระ            และผมได้เขียนและบอกหล่อนว่าโปรดกรุณาเถิดWhoa, tie a yellow ribbon round the ole oak tree It's been three long years, do you still want me? If I don't see a ribbon round the ole oak tree I'll stay on the bus, forget about us, put the blame on me If I don't see a yellow ribbon round the ole oak treeNow the whole damned bus is cheerin' And I can't believe I seeโอ้...จงผูกริบบิ้นสีเหลืองรอบต้นโอ๊คเดิม            มันเป็นเวลา 3 ปีที่ยาวนาน คุณยังคงต้องการผมอยู่หรือเปล่า?            ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผมจะอยู่บนรถโดยสาร ลืมเรื่องของเรา จงตำหนิผม            ถ้าผมไม่เห็นริบบิ้นสีเหลืองรอบต้นโอ๊คเดิม            และตอนนี้คนทั้งรถโดยสารกำลังส่งเสียงให้กำลังใจ            และผมไม่เชื่อสิ่งที่ผมมองเห็นเลยA hundred yellow ribbons round the ole oak tree I'm comin' home            ริบบิ้นเป็นร้อยๆเส้นพันอยู่รอบๆต้นโอ๊คเดิมผมกำลังกลับบ้านTie a ribbon round the ole oak tree Tie a ribbon round the ole oak tree Tie a ribbon round the ole oak tree            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิมTie a ribbon round the ole oak tree Tie a ribbon round the ole oak tree Tie a ribbon round the ole oak tree            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิมTie a ribbon round the ole oak tree Tie a ribbon round the ole oak tree            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิม            ผูกริบบิ้นสักเส้นรอบต้นโอ๊คเดิมVocabulary Itemsabout (prep) = เรื่องราวblame (v, n) = ตำหนิ การตำหนิbus (n) = รถโดยสารbus driver (n) = คนขับรถโดยสารforget (v) = ลืมhundred (n) = จำนวน 100look for (v) = มองหาแทน มองหา ค้นหาoak tree (n) = ต้นโอ๊คole (adj) = เก่า เดิม แก่prison (n) = คุก ตะรางreally (adv) = จริงๆ อย่างแท้จริงribbon (n) = ริบบิ้นround (prep) = รอบ รอบๆsimple (adj) = ธรรมดา ง่ายๆstay on (v) = ยังคงอยู่still (adv) = ยังคงอยู่tie (v) = ผูก มัดyellow (n, adj) = สีเหลือง เหลืองExpressionsI can't believe what I see. = ผมไม่เชื่อสิ่งที่ผมมองเห็นเลยI couldn't bear to see what I might see. = ผมไม่สามารถจะทนดูสิ่งที่ผมอาจจะเห็นได้I've done my time. = ผมได้ชดใช้ความผิดของผมแล้วput the blame on me = จงตำหนิผมShe holds the key. = หล่อนถือกุญแจ หล่อนคือผู้กุมชะตากรรมThe whole damned bus is cheering. = คนทั้งรถโดยสารกำลังส่งเสียงให้กำลังใจto set someone free = เพื่อปล่อยให้บางคนเป็นอิสระ
18 พฤษภาคม 2563     |      571
Those Were the Days
Those Were the Days วันที่ผ่านมาเหล่านั้นMary Hopkinแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Once upon a time there was a tavern Where we used to raise a glass or two Remember how we laughed away the hours Think of all the great things we would doในกาลครั้งหนึ่ง มีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่เราเคยดื่มด้วยกันแก้วหนึ่งหรือสองแก้วจำได้ว่าเรานั่งหัวเราะกันเป็นชั่วโมงๆคิดถึงสิ่งที่สำคัญๆที่เราจะทำThose were the days my friend We thought they'd never end We'd sing and dance forever and a day We'd live the life we choose We'd fight and never lose For we were young and sure to have our way. La la la la...วันที่ผ่านมาเหล่านั้น เพื่อนเอ๋ยเราคิดกันว่าวันเหล่านั้นคงไม่มีวันสิ้นสุดเราอยากจะร้องเพลงและเต้นรำชั่วนิจนิรันดร์ และวันหนึ่งเราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกเราอยากจะต่อสู้และจะไม่มีวันแพ้เนื่องจากเรายังเยาว์วัย และแน่ใจว่าจะมีหนทางของเราเองโอ้ ลา ล่า ล้าThen the busy years went rushing by us We lost our starry notions on the way If by chance I'd see you in the tavern We'd smile at one another and we'd sayแล้วปีเดือนที่ยุ่งๆก็ผ่านเราไปอย่างรวดเร็วเราสูญเสียความเชื่อที่เจิดจรัสบนเส้นทาง(ชีวิตถ้าเป็นการบังเอิญ ฉันก็จะพบคุณที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้เราก็จะยิ้มให้กันและกัน และเราจะพูดว่าThose were the days my friend We thought they'd never end We'd sing and dance forever and a day We'd live the life we choose We'd fight and never lose Those were the days, oh yes those were the days La la la la...วันที่ผ่านมาเหล่านั้น เพื่อนเอ๋ยเราคิดกันว่าวันเหล่านั้นคงไม่มีวันสิ้นสุดเราอยากจะร้องเพลงและเต้นรำชั่วนิจนิรันดร์ และวันหนึ่งเราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกเราอยากจะต่อสู้และจะไม่มีวันแพ้วันที่ผ่านมาเหล่านั้น โอ้ ใช่แล้ว วันที่ผ่านมาเหล่านั้นโอ้ ลา ล่า ล้าJust tonight I stood before the tavern Nothing seemed the way it used to be In the glass I saw a strange reflection Was that lonely woman really meเพียงแต่คืนนี้ ฉันยืนอยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยมไม่มีอะไรเหมือนสิ่งที่มันเคยเป็นมาก่อนในแก้ว ฉันมองเห็นเงาสะท้อนที่แปลกสุภาพสตรีที่เปล่าเปลี่ยวนั่นคือฉันจริงๆหรือThose were the days my friend We thought they'd never end We'd sing and dance forever and a day We'd live the life we choose We'd fight and never lose Those were the days, oh yes those were the days La la la la...วันที่ผ่านมาเหล่านั้น เพื่อนเอ๋ยเราคิดกันว่าวันเหล่านั้นคงไม่มีวันสิ้นสุดเราอยากจะร้องเพลงและเต้นรำชั่วนิจนิรันดร์ และวันหนึ่งเราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกเราอยากจะต่อสู้และจะไม่มีวันแพ้วันที่ผ่านมาเหล่านั้น โอ้ ใช่แล้ว วันที่ผ่านมาเหล่านั้นโอ้ ลา ล่า ล้าThrough the door there came familiar laughter I saw your face and heard you call my name Oh my friend we're older but no wiser For in our hearts the dreams are still the sameเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยดังเข้ามาทางประตูฉันเห็นใบหน้าของคุณและได้ยินคุณเรียกชื่อฉันโอ้ เพื่อนเอ๋ย เราแก่กว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้ฉลาดกว่าเดิมเนื่องจากในหัวใจของเรายังคงมีความฝันเหมือนเดิมThose were the days my friend We thought they'd never end We'd sing and dance forever and a day We'd live the life we choose We'd fight and never lose Those were the days, oh yes those were the days La la la laวันที่ผ่านมาเหล่านั้น เพื่อนเอ๋ยเราคิดกันว่าวันเหล่านั้นคงไม่มีวันสิ้นสุดเราอยากจะร้องเพลงและเต้นรำชั่วนิจนิรันดร์ และวันหนึ่งเราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกเราอยากจะต่อสู้และจะไม่มีวันแพ้วันที่ผ่านมาเหล่านั้น โอ้ ใช่แล้ว วันที่ผ่านมาเหล่านั้นโอ้ ลา ล่า ล้าVocabulary Itemsforever (adv) = ชั่วนิรันดร์laugh away (v) = หัวเราะอย่างอารมณ์ดีหัวเราะแบบกลบเกลื่อนปัญหา หรือความขมขื่น แกล้งหัวเราะnotion (n) = ความเชื่อ ความคิดเห็นrush by (v) = ผ่านไปอย่างรีบเร่งstarry (adj) = กำหนดที่ดวงดาว ส่องสว่างดั่งดวงดาวtavern (n) = โรงเตี๊ยมthink of (v) = คิดถึงused to (v) = เคยExpressionsOnce upon a time = ในกาละครั้งหนึ่งNothing seemed the way it used to be. = ไม่มีอะไรเหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นon the way = ไปตามทาง บนเส้นทางชีวิตstarry notions = ความเชื่อที่เจิดจรัสThrough the door there came familiar laughter = เสียงหัวเราะที่คุ้นเคยดังมาทางประตูGrammarSimple Present Tenseปัจจุบันกาลธรรมดา เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันในขณะที่พูดเป็นปกติวิสัย เช่นI really don't want to know.But darling, I love you so. Simple Past Tenseปัจจุบันกาลรรมดา เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งเกิดขึ้นและสิ้นสุดแล้วในอดีต เช่นAnd hated to let you go.And set your soul aglow. Present Perfect Tenseปัจจุบันกาลสมบูรณ์ เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แล้วยังดำเนินติดต่อกันเรื่อยมาถึงปัจจุบัน เช่นHow many arms have held you?How many lips have kissed you? ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 2 (Impossible Present Conditions) เงื่อนไขที่เป็นจริงไม่ได้ในปัจจุบัน เช่นIf by chance I would see you in the tavern. Subjunctive Moodปริกัลบมาลาคือประโยคที่แสดงความต้องการ ความปรารถนา แนะนำ ตักเตือน เชิญชวน ขอร้อง หรือแสดงเงื่อนไขสมมติ ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง เช่น We thought they would never end. = เราคิดกันว่าวันเหล่านั้นคงไม่มีวันสิ้นสุดWe would sing and dance forever.= เราอยากจะร้องเพลงและเต้นรำชั่วนิจนิรันดร์ We would live the life we choose. = เราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกWe would fight and never lose.= เราอยากจะต่อสู้และจะไม่มีวันแพ้
18 พฤษภาคม 2563     |      2189
This Masquerade
This Masqueradeงานเลี้ยงใส่หน้ากากนี้Karen Carpentersแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Are we really happy here With this lonely game we play Looking for words to say Searching but not finding understanding anywhere We're lost in a masqueradeที่นี่เรามีความสุขมากจริงๆใช่ไหมกับเกมส์ที่เงียบเหงาที่เราเล่นกำลังค้นหาถ้อยคำที่จะมาพูดค้นหาเท่าไหร่แต่ก็ไม่พบความเข้าใจเลยสักแห่งเดียวเรากำลังหลงอยู่ในงานเลี้ยงใส่หน้ากากBoth afraid to say we're just too far away From being close together from the start We tried to talk it over but the words got in the way We're lost inside this lonely game we playเราทั้งคู่เกรงกลัวที่จะพูดว่าเรามาไกลเกินไปจากจุดที่เราใกล้ชิดกันในตอนเริ่มต้นเราพยายามที่จะพูดกันเรื่องนี้ให้เข้าใจ แต่ว่าถ้อยคำมันติดขัดเรากำลังหลงอยู่ภายในเกมส์ที่เงียบเหงาที่เราเล่นThoughts of leaving disappear Every time I see your eyes No matter how hard I try To understand the reasons Why we carry on this way We're lost in a masqueradeความคิดที่จะจากไปไม่มีแล้วทุกครั้งที่ผมเห็นดวงตาของคุณไม่ว่าผมจะพยายามมากขนาดใดที่จะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเราจึงดำเนินไปเช่นนี้เรื่อยๆเรากำลังหลงอยู่ในงานเลี้ยงใส่หน้ากากVocabulary Itemsafraid (adj) = เกรงกลัวcarry on (v) = ดำเนินการไปเรื่อยๆdisappear (v) = หายไป find (v) = พบgame (n) = การละเล่นlonely (adj, adv) = โดดเดี่ยว ว้าเหว่ อยู่ตามลำพัง เงียบเหงาlook for (v) = ค้นหาmasquerade (n) = งานเลี้ยงใส่หน้ากากreally (adv) = จริงๆ อย่างแท้จริงreason (n) = เหตุผลsearch (v) = ค้นหา สำรวจThe words got in the way. = ถ้อยคำมันติดขัดto be lost (pp) = หลงtogether (adv) = ด้วยกันunderstand (v) = เข้าใจWe tried to talk it over. = เราพยายามที่จะพูดกันเรื่องนี้ให้เข้าใจ
18 พฤษภาคม 2563     |      367
There's Always Me
There's Always Meมีผมอยู่เสมอElvis Presleyแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์When the evening shadows fall And you're wondering who to call For a little company There's always meเมื่อเงามืดของค่ำคืนเกิดขึ้นและคุณสงสัยว่าจะเรียกหาใครเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนชั่วครู่ยามคุณ มีผมอยู่เสมอIf your great romance should end And you're lonesome for a friend Darling you need never be There's always meถ้าหากว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ของคุณมีอันจบสิ้นลงและคุณรู้สึกเปล่าเปรียวต้องการเพื่อนที่รัก...ความต้องการของคุณจะไม่เป็นเช่นนั้นเพราะคุณ มีผมอยู่เสมอI don't seem to mind somehow Playing second fiddle now Someday you'll want me, dear And when that day is hereผมไม่รู้สึกรังเกียจอะไรเลยที่จะรักใครเป็นคนที่สองในตอนนี้สักวันหนึ่งคุณจะต้องการผม...ที่รักและเมื่อวันนั้นคือวันนี้Within my arms you'll come to know Other loves may come and go But my love for you will be eternally Look around and you will see There's always meภายในอ้อมแขนของผมคุณก็จะรู้ว่าความรักของคนอื่นอาจจะเกิดขึ้นและหายไปได้แต่ความรักของผมสำหรับคุณจะมีชั่วนิจนิรันดร์มองไปรอบๆซิและคุณจะพบว่ามีผมอยู่เสมอVocabulary Itemscall (v) = เรียกหา โทรศัพท์ถึงdarling (n) = ที่รักeternally (adv) = ชั่วนิจนิรันดร์evening (n) = ยามเย็นfall (v) = ล้มลง เกิดขึ้นfiddle (v) = เครื่องสาย ไวโอลินgreat (adj) = ยิ่งใหญ่little company (n) = เพื่อนชั่วครู่ยาม เพื่อนชั่วคราวlonesome (adj) = โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยว ว้าเหว่look around (v) = มองไปรอบๆmind (v) = รังเกียจplaying second fiddle. = มีความสำคัญเป็นรองคนอื่น romance (n) = เรื่องรักใคร่shadow (n) = เงามืดwonder (v) = สงสัย
18 พฤษภาคม 2563     |      313
ทั้งหมด 42 หน้า