Lovelight in My Heart
Lovelight in My Heartแก้วตาขวัญใจ ประกายรักในหัวใจผมเพลงพระราชนิพนธ์ของ ร.9นิพนธ์คำร้องโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริขับร้องโดย จินตนา สุขสถิตแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์ สุกมลสันต์Oh, darling mine, I'm so in love with you.
Since first we met long, long ago.
I wonder if you love me too?
My lonely, loving heart's bleeding so, โอ้...ที่รักของผม ผมรักคุณมาก นับตั้งแต่เราพบกันเป็นครั้งแรก ซึ่งนานมากมาแล้ว ผมสงสัยว่าคุณรักผมด้วยเหมือนกันหรือเปล่า? หัวใจใฝ่รักที่โดดเดี่ยวของผมกำลังระทมทุกข์ (กำลังเลือดไหลซึมMy whole life now depends on you, my love.
You're sent from heaven up above.
Just to fill empty heart
With a thrill from the start.
At first sight, lovelight burns in my heart. ชีวิตของผมทั้งหมดในขณะนี้ขึ้นอยู่กับคุณ คุณถูกส่งมาจากสวรรค์เบื้องบน เพียงเพื่อเติมหัวใจที่ว่างเปล่าของผมให้เต็ม ด้วยความสุขหรรษานับตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่แรกพบ ประกายแห่งรักลุกไหม้อยู่ในหัวใจผม[1] Fate brings me life anew,
When I meet you,
Love at first sight,
With flaming light
Burns in my heart.
In reaching for you, love,
You're high above,
Like stars afar
It seems we are apart. ชะตาชีวิตนำชีวิตใหม่มาสู่ผม เมื่อผมพบคุณ ความรักแรกพบ พร้อมกับแสงสว่างที่ลุกโชน ลุกไหม้อยู่ในใจผม ในการไขว่คว้าหาคุณ ที่รัก คุณอยู่สูงมาก เหมือนดั่งดวงดาวที่แสนไกล มันดูเหมือนว่า เราอยู่ห่างจากกัน[2] So beats my heart with such a love so true,
My heart, my soul belong to you.
You alone, mean to me,
You're my own destiny.
At first sight, lovelight keeps burning me. ด้วยความรักที่แท้จริงเช่นนั้นทำให้หัวใจผมเต้นแรง ที่รัก หัวใจของผมเป็นของคุณ คุณเท่านั้นที่มีความหมายสำหรับผม คุณคือโชคชะตาทั้งหมดของผม ตั้งแต่แรกพบ ประกายแห่งรักเผาไหม้ผมอยู่ตลอดเวลาIf you love me as much as I love you,
The whole world, dear, will be so fair,
The sky will be so clear, so blue
And there'll be warm sunshine everywhere, ถ้าคุณรักผมมากเท่ากับที่ผมรักคุณ โลกทั้งโลก ที่รัก จะยุติธรรมมาก ท้องฟ้าจะใสกระจ่างและเป็นสีน้ำเงินสด และจะมีแสงแดดที่อบอุ่นทุกหนทุกแห่งMy searching heart will never roam again
With you alone I shall remain,
Ever care, from the start,
Ever share, lover's part.
At first sight, lovelight burns in my heart. หัวใจที่ไฝ่หาของผมจะไม่ท่องเที่ยวไปไหนอีกแล้ว กับคุณเท่านั้น ผมสัญญาว่าจะอยู่ที่นี่ ดูแลใส่ใจเสมอ ตั้งแต่แรกเริ่ม แบ่งปันเสมอในส่วนที่เป็นความรัก ตั้งแต่แรกพบ ประกายแห่งรักลุกไหม้อยู่ในหัวใจผม[1][2]Vocabulary Itemsafar (adv) = ห่างไกลมากalone (adv) = ตามลำพังanew (adv) = อีกครั้งหนึ่งapart (adv) = ห่างออกจากกัน แยกออกจากกันat first sight = พบครั้งแรกbeat (v) = เต้นเป็ยจังหวะbleed (v) = เลือดกำลังไหลburn (v) = เผาไหม้care (v) = สนใจใยดี ห่วงใย เอื้ออาทรclear (adj) = แจ่มใส ชัดเจนdepend on (v) = ขึ้นอยู่กับdestiny (n) = โชคชะตา empty (adj) = ว่างเปล่าfair (adj) = ยุติธรรมfate (n) = ชะตากรรม โชคชะตาfill (v) = บรรจุ เติม ใส่ลงไปflaming light = แสงที่กำลังลุกไหม้heaven (n) = สวรรค์lonely (adj) = เปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยว love at first sight = รักแรกพบlovelight (n) = ประกายแห่งรัก แววตาที่บ่งบอกความรักloving (adj) = รักใคร่ ห่วงใย แสดงความรักใคร่mean (v) = มีความหมาย มีความสำคัญreach (v) = เอื้อมมือ ไขว่คว้าremain (v) = คงอยู่ เหมือนเดิมroam (v) = ท่องเที่ยวไปเรื่อยๆshare (v) = แบ่งปันsoul (n) = วิญญาณ จิตใจ ความรู้สึก thrill (n) = ความรู้สึกตื่นเต้น ความสุขล้นtrue (adj) = แท้จริงwhole (adj) = ทั้งหมด ทั้งมวลwonder (v) = สงสัยแก้วตาขวัญใจเพลงพระราชนิพนธ์ของ ร.9นิพนธ์คำร้องโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริแก้วตาขวัญใจเธออยู่แห่งใดขวัญเอย
ขาดชู้คู่เชยรักเอยเดียวดาย
เฝ้าคอยรักเศร้าเหงาใจแสนหน่าย
เปลี่ยนปานชีวาวางวายคลายสุขตรมโอ้เวรไหนมาพาโชคชะตาแสนชั่ว
โลกนี้มืดมัวหวาดกลัวระทม
ได้แต่หวังนั่งแต่ฝันคอยคู่ขวัญตันอกตรม
ร้อนอารมณ์หวังชมชิดเชยดวงใจอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวปานใดอกใจระทม
ขาดคนนิยมขาดคู่ชิดชมระบมทรวงใน
โอ้บุญไม่ช่วยนำพาแก้วตาขวัญใจ
ได้แต่ฝันไปไม่สบสมใจรักเอยแก้วตาขวัญใจเธออยู่แห่งใดหนอเธอ
เฝ้าเพ้อเฝ้าละเมอใฝ่เธอมาเชย
สุดจะเหงาเฝ้าแต่ฝันทรวงกระสันพรั่นจิตเลย
ฝันถึงวันขวัญเอยชิดเชยชื่นชมเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๒ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ.๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
16 พฤษภาคม 2563 |
386