I Can See Clearly Now
I Can See Clearly Nowตอนนี้ผมสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแล้วJohnny Nashแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I can see clearly now the rain is gone I can see all obstacles in my way Gone are the dark clouds that had me blind It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny day ผมสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้ฝนหายไปแล้วผมสามารถมองเห็นอุปสรรคทั้งหมดในเส้นทางของผมเมฆมืดที่ทำให้ผมตาบอดหายไปแล้วมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny day Oh, yes I can make it now the pain is gone All of the bad feelings have disappeared Here is that rainbow I've been praying forมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)โอ้ใช่แล้ว ผมสามารถทำให้ตอนนี้อาการปวดหายไปทุกความรู้สึกไม่ดีได้หายไปแล้วนี่คือรุ้งตัวนั้นที่ผมพร่ำขออธิษฐานไว้It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny day Look all around, there's nothing but blue skiesมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)มองไปรอบ ๆ ไม่มีอะไรนอกจากท้องฟ้าสีครามLook straight ahead, there's nothing but blue skies I can see clearly now the rain is gone - I can see all obstacles in my way - Here is that rainbow I've been praying forมองตรงไปข้างหน้า ไม่มีอะไรนอกจากท้องฟ้าสีครามผมสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้ฝนหายไปแล้วผมสามารถมองเห็นอุปสรรคทั้งหมดในเส้นทางของผมนี่คือรุ้งตัวนั้นที่ผมพร่ำขออธิษฐานไว้It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny day It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny dayมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)มันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)Bright (bright) bright (bright) Bright sunshiny day It's going to be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny dayมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้ามันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny day It's gonna be a bright (bright) Bright (bright) sunshiny dayมันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)มันจะเป็นวันที่สดใส (สดใส)เป็นวันแดดสว่างจ้า (สว่าง)Vocabulary Itemsall around (adv) = อยู่รอบๆข้างblind (adj) = ตาบอด มองไม่เห็นblue (n) = สีคราม สีน้ำเงินbright (adj) = สว่าง ส่องแสงสว่างclearly (adv) = อย่างชัดเจนcloud (n) = เมฆdisappear (v) = หายไป feeling (n) = ความรู้สึกobstacle (n) = อุปสรรค ปัญหาpain (n) = ความเจ็บปวดpray (v) = สวดมนต์ อ้อนวอน ภาวนาrainbow (n) = รุ้งกินน้ำsunny (adj) = แดดจ้าsunshiny (n) = แสงอาทิตย์จ้า แสงแดดสว่างจ้า
14 พฤษภาคม 2563     |      346
It's Not Unusual
It's Not Unusual (มันไม่ผิดปกติ Tom Jonesแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์It's not unusual to be loved by anyone It's not unusual to have fun with anyone but when I see you hanging about with anyone It's not unusual to see me cry, oh I wanna' dieมันไม่ผิดปกติที่จะมีใครรักสักคนหนึ่ง            มันไม่ผิดปกติที่จะมีความสนุกสนานกับใครสักคนหนึ่ง            แต่เมื่อผมเห็นคุณออกไปเที่ยวเตร่กับใครสักคนหนึ่ง            มันไม่ผิดปกติที่เห็นผมร้องไห้โอ้ ผมอยากจะตาย It's not unusual to go out at any time but when I see you out and about it's such a crime if you should ever want to be loved by anyone, It's not unusual it happens every day no matter what you say you find it happens all the timeมันไม่ผิดปกติที่จะออกไปเที่ยวเมื่อใดก็ได้            แต่เมื่อผมเห็นคุณออกไปเที่ยวเตร่ มันเป็นการกระทำผิดที่ยิ่งใหญ่(อาชญากรรม            ถ้าคุณเคยปรารถนาอยากจะให้ใครสักคนรักคุณ            มันไม่ผิดปกติ (เนื่องจากมันเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าคุณจะพูดว่าอย่างไร            คุณพบว่ามันเกิดขึ้นตลอดเวลาlove will never do what you want it to why can't this crazy love be mine It's not unusual, to be mad with anyone It's not unusual, to be sad with anyone but if I ever find that you've changed at anytime it's not unusual to find out that I'm in love with you whoa-oh-oh-oh-ohความรักมันไม่เคยทำอย่างที่คุณต้องการให้มันเป็นทำไมความรักบ้าๆนี้จึงไม่เป็นความรักของผมบ้าง            มันไม่ผิดปกติที่จะโกรธใครก็ตาม            มันไม่ผิดปกติที่จะเศร้ากับใครก็ตาม            แต่ถ้าผมจะเคยพบว่าคุณเปลี่ยนไปเมื่อใดก็ตาม            มันไม่ผิดปกติที่จะพบว่าผมหลงรักคุณ            โอ้…….Vocabulary Itemsanyone (pro) = ใครก็ตาม คนใดคนหนึ่งcrazy (adj) = บ้า หลงใหล เพ้อฝันcrime (n) = อาชญากรรม ความผิดที่ร้ายแรงfind out (v) = ค้นพบhang about/around (v) = เที่ยวเตร่นอกบ้านhappen (v) = เกิดขึ้นmad with (adj) = โกรธกับ บ้าคลั่งกับsad with (adj) = เศร้าเกี่ยวกับunusual (adj) = ไม่ปกติ ผิดปกติExpressionsI am in love with you.No matter what you say.It is not unusual.When I see you out and about, it's such a crime.GrammarSimple Present Tenseปัจจุบันกาลธรรมดา เพื่อใช้บ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันในขณะที่พูดเป็นปกติวิสัย เช่นIt's not unusual to be loved by anyone.It's not unusual to have fun with anyone.It's not unusual to see me cry. Subjunctive Moodปริกัลบมาลาคือประโยคที่แสดงความต้องการ ความปรารถนา แนะนำ ตักเตือน เชิญชวน ขอร้อง หรือแสดงเงื่อนไขสมมติ ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง เช่นIf you should ever want to be loved by anyone, it is not unusual.ถ้าคุณเคยปรารถนาอยากจะให้ใครสักคนรักคุณ มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดปกติWe would live the life we choose.เราอยากจะมีชีวิตที่เราเลือกWe would fight and never lose.เราอยากจะต่อสู้และไม่มีวันแพ้
11 พฤษภาคม 2563     |      817
It's Impossible
It's Impossible (มันเป็นไปไม่ได้Perry Comoแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์It's impossible, tell the sun to leave the sky, it's just impossible It's impossible, ask a baby not to cry, it's just impossible Can I hold you closer to me and not feel you goin' through me? Split the second that I never think of you, oh, how impossibleมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกให้ดวงอาทิตย์ละทิ้งท้องฟ้า มันเป็นไปไม่ได้เลย            มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกให้ทารกหยุดร้องไห้ มันเป็นไปไม่ได้เลย            ผมสามารถกอดคุณเข้ามาใกล้และไม่รู้สึกว่าคุณไม่ได้เข้ามาในตัวผมได้หรือ?            สักเสี้ยววินาทีหนึ่งที่ผมไม่คิดถึงคุณเลย โอ้ มันช่างเป็นไปไม่ได้[1] Can the ocean keep from rushin' to the shore, it's just impossible If I had you, could I ever want for more, it's just impossible And tomorrow, should ya ask me for the world, somehow I'd get it I would sell my very soul and not regret it For to live without your love It's just impossibleน้ำในมหาสมุทรหยุดถาโถมเข้าสู่ฝั่งได้ไหม? มันเป็นไปไม่ได้เลย            ถ้าผมได้คุณ ผมยังต้องการคนอื่นอีกไหม? มันเป็นไปไม่ได้เลย            และวันพรุ่งนี้ หากว่าคุณขอผมให้หาโลกให้คุณ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งผมก็จะหาให้            ผมจะขายจิตวิญญาณของผมจริงๆและจะไม่เสียใจเลย            เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรักของคุณมันเป็นไปไม่ได้เลย[1]Impossible, impossibleเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้Vocabulary Itemsask for (v) = ขอimpossible (adj) = เป็นไปไม่ได้keep from (v) = ละเว้น ไม่กระทำleave (v) = ละทิ้งocean (n) = มหาสมุทรregret (v) = เสียใจrush (v) = รีบเร่ง ถาโถม ชัดเข้ามาอย่างรวดเร็วshore (n) = ชายฝั่งทะเล ชายฝั่งมหาสมุทรsplit the second (v) = แยกวินาทีออก เสี้ยววินาทีthink of (v) = คิดถึงvery soul (n) = วิญญาณจริงๆya = youGrammarVery + nมีความหมายว่าเน้นสิ่งนั้นจริงๆ ไม่ใช่สิ่งอื่นใด เช่นI saw him sit on that very chair. = ผมเห็นเขานั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นจริงๆ ไม่ใช่ตัวอื่นI would sell my very soul. = ผมจะขายจิตวิญญาณของผมจริงๆไม่ใช่พูดเล่นๆ
11 พฤษภาคม 2563     |      924
It Never Rains In Southern California
It Never Rains In Southern Californiaฝนไม่เคยตกที่ Southern California)Albert Hammondแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Got on board a westbound seven forty seven Didn't think before deciding what to do All that talk of opportunities, TV breaks and movies Rang true, sure rang trueขึ้นเครื่องบิน มุ่งสู่ตะวันตก ด้วนเครื่องบินโบอิ้ง 747            ไม่ได้คิดมาก่อนตัดสินใจว่าจะทำอะไร            มีคนพูดถึงแต่โอกาส ข่าวด่วนทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์            ว่าเป็นจริง ว่าเป็นจริงแน่[1] Seems it never rains in Southern California Seems I've often heard that kind of talk before It never rains in California, but girl, don't they warn ya It pours, man, it pours            ดูเหมือนว่า ฝนไม่เคยตกเลย (ไม่เคยมีปัญหาที่ Southern Californiaดูเหมือนว่า ผมเคยได้ยินเขาพูดกันอย่างนั้นมาก่อนว่าฝนไม่เคยตกเลย (ไม่เคยมีปัญหา ที่ Southern California แต่สาวเอ๋ย เขาไม่เคยเตือนคุณหรือเปล่าว่าฝนมันเทกระหน่ำ (มันมีปัญหามากมาย โอ้ย ฝนมันเทกระหน่ำเลย มันมีปัญหามากมายOut of work, I'm out of my head Out of self respect, I'm out of bread I'm under loved, I'm underfed I wanna go home            มีมีงานทำ คิดอะไรไม่ออก            ไม่เหลือความเชื่อถือตนเอง ไม่มีอาหาร            ไม่มีใครรัก ขาดอาหาร            ผมต้องการกลับบ้านIt never rains in California, but girl, don't they warn ya It pours, man, it poursฝนไม่เคยตกเลย (ไม่เคยมีปัญหา ที่ Southern California แต่สาวเอ๋ย เขาไม่เคยเตือนคุณหรือเปล่าว่าฝนมันเทกระหน่ำ (มันมีปัญหามากมาย โอ้ย ฝนมันเทกระหน่ำเลย มันมีปัญหามากมายWill you tell the folks back home I nearly made it? Had offers but don't know which one to take Please, don't tell 'em how you found me Don't tell 'em how you found me Gimme a break, gimme a breakคุณจะช่วยบอกญาติพี่น้องทางบ้านหน่อยได้ไหมว่าผมเกือบจะทำสำเร็จแล้ว            มีคนเสนองานให้ทำหลายอย่างแต่ผมไม่รู้ว่าจะเลือกงานไหน            โปรดอย่าบอกพวกเขาว่าคุณพบผมได้อย่างไร            ขอเวลาผมหน่อย ขอเวลาให้ผมหน่อย[1]Vocabulary Itemsfolks back home = พ่อแม่ที่บ้านgimme a break = give me a break ขอเวลาหน่อย ขอโอกาสอีกหน่อยgot on board (v) = ขึ้นเครื่องบนIt pours. = ฝนมันเทกระหน่ำ มันมีปัญหามากมายopportunity (n) = โอกาสout of (prep) = ขาดแคลน  ไม่มี out of work = ไม่มีงานทำout of my head = คิดอะไรไม่ออกpour (v) = เทน้ำ ตกหนักเหมือนฟ้ารั่วring true (v) = ว่าเป็นจริงIt never rains in southern California. = ฝนไม่เคยตกเลย ไม่เคยมีปัญหาที่ Southern Californiaself respect (n) = การนับถือตนเองseven forty seven (n) = เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 747talk of (v) = พูดถึงTV break (n) = ข่าวด่วนทางโทรทัศน์Under-loved (pp) = ไม่มีคนรักใคร่underfed (pp) = อาหารไม่เพียงพอ ขาดแคลนอาหารwanna = want towestbound (prep) = มุ่งสู่ทิศตวันตก
11 พฤษภาคม 2563     |      1566
If We Hold on Together
If We Hold on Togetherถ้าเรายึดมั่นอยู่ด้วยกันDiana Rossแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Don't lose your way with each passing day You've come so far Don't throw it awayอย่าหลงทาง            ไปกับเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันคุณมาไกลเกินไปแล้ว            อย่าปล่อยให้เวลาสูญเสียไปLive believing Dreams are for weaving Wonders are waiting to start Live your story Faith, hope and glory Hold to the truth in your heartอยู่อย่างมีความเชื่อความฝันมีไว้เพื่อประสานทักทอปฎิหารกำลังรอคอยให้เกิดขึ้นอยู่กับเรื่องราวของคุณศรัทธา ความหวัง และความรุ่งโรจน์ยึดมั่นกับสัจธรรมในหัวใจของคุณ[1] If we hold on together I know our dreams will never die Dreams see us through to forever Where clouds roll by, for you and Iถ้าเรายึดมั่นอยู่ด้วยกันฉันรู้ว่าความฝันของเราจะไม่มีวันตายความฝันจะนำทางเราไปชั่วนิจนิรันดร์สู่ตรงที่เมฆม้วนตัวลอยผ่าน สำหรับฉันและคุณSouls in the wind Must learn how to bend Seek out a star Hold on to the endวิญญาณอยู่ในลมต้องเรียนรู้วิธีลู่ตามสายลมแสวงหาดวงดาวสักดวงหนึ่งยึดมันให้มั่นจนถึงวาระสุดท้ายValley...Mountain There is a fountain Washes our tears all away Words are swaying Someone is praying Please let us come home to stayหุบเขา…ภูเขามีน้ำพลุชะล้างน้ำตาของเราให้หายไปถ้อยคำเปลี่ยนไปบางคนกำลังสวดมนต์โปรดปล่อยให้เรากลับบ้านเพื่ออยู่อาศัย[1]When we are out there in the dark We'll dream about the sun In the dark we'll feel the light Warm our hearts...every oneเมื่อเราออกไปข้างนอกอยู่ในความมืดเราจะฝันถึงดวงอาทิตย์ในความมืด เราจะรู้สึกว่ามีแสงสว่างให้ความอบอุ่นแก่หัวใจเรา…ทุกๆคน[1]Vocabulary Itemsbelieve (v) = เชื่อถือcloud (n) = ก้อนเมฆdon't throw it away. = อย่าปล่อยให้เวลาสูญเสียไป อย่าโยนมันทิ้งไปdream about (v) = ฝันถึงfaith (n) = ศรัทธาfountain (n) = น้ำพลุglory (n) = ความรุ่งโรจน์hold on to the end. = ยึดมันให้มั่นจนถึงวาระสุดท้ายlose your way = หลงทางmountain (n) = ภูเขาroll by (v) = กลิ้งไป ม้วนตัวไปso far = ไกลเกินไปsoul (n) = วิญญาณsway (v) = เปลี่ยนไป แกว่งไป ไม่คงที่ เป๋ไปเป๋มา โอนเอนไปมาtruth (n) = ความจริง สัจธรรมvalley (n) = หุบเขาwash (v) = ชะล้างweave (v) = ถักทอ ประสานกันwonder (n) = ปฎิหาร สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน สิ่งที่น่าสงสัย สิ่งมหัสจรรย์
10 พฤษภาคม 2563     |      1038
I'd Love You To Want Me
I'd Love You To Want Me ผมอยากให้คุณต้องการผมLoboแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์When I saw you standing there I bout fell out my chair And when you moved your mouth to speak I felt the blood go to my feet.เมื่อผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนั้นผมเกือบตกจากเก้าอี้และเมื่อคุณขยับริมฝีปากเพื่อพูดผมรู้สึกเวียนศรีษะจะเป็นลม (เลือดไหลลงสู่เท้า[1] Now it took time for me to know what you tried so not to show Now something in my soul just cries I see the want in your blue eyes.ตอนนี้ มันใช้เวลาที่ผมจะรู้จักว่าทำไมคุณพยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึกออกมาขณะนี้บางอย่างในจิตวิญญาณของผมได้แต่ร้องไห้เท่านั้นผมเห็นความต้องการอยู่ในดวงตาสีน้ำเงินของคุณ[2] Baby, I'd love you to want me The way that I want you The way that it should be Baby, you'd love me to want you The way that I want to If you'd only let it be.ที่รัก ผมอยากให้คุณต้องการผมอย่างที่ผมต้องการคุณอย่างที่มันควรจะเป็นที่รัก ผมอยากให้คุณต้องการผมอย่างที่ผมต้องการคุณถ้าเพียงแต่คุณปล่อยให้มันเป็น (ตามธรรมชาติYou told yourself years ago You'd never let your feeling show The obligation that you made For the title that they gave.คุณบอกตัวเองหลายปีมาแล้วคุณจะไม่แสดงความรู้สึกของคุณออกมาเลยข้อผูกพันธ์ที่คุณได้กระทำขึ้นมามันก็เป็นอย่างที่คนอื่นๆเขาว่าคุณ[2] [1] [2]Vocabulary Itemsbout = about (adv) เกือบFor the title that they gave. =มันก็เป็นอย่างที่คนอื่นๆเขาว่าคุณI felt the blood go to my feet.= ผมรู้สึกเวียนศรีษะจะเป็นลม เลือดไหลลงสู่เท้าI'd love you to want me =ผมอยากให้คุณต้องการผมIf you'd only let it be. =ถ้าเพียงแต่คุณปล่อยให้มันเป็น ตามธรรมชาติit took time = มันใช้เวลา มันเสียเวลาobligation (n) = ข้อผูกพันธ์soul (n) = วิญญาณ
10 พฤษภาคม 2563     |      3450
I'd Love You To Want Me
I'd Love You To Want Me ผมอยากให้คุณต้องการผมLoboแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์When I saw you standing there I bout fell out my chair And when you moved your mouth to speak I felt the blood go to my feet.เมื่อผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนั้นผมเกือบตกจากเก้าอี้และเมื่อคุณขยับริมฝีปากเพื่อพูดผมรู้สึกเวียนศรีษะจะเป็นลม (เลือดไหลลงสู่เท้า[1] Now it took time for me to know what you tried so not to show Now something in my soul just cries I see the want in your blue eyes.ตอนนี้ มันใช้เวลาที่ผมจะรู้จักว่าทำไมคุณพยายามที่จะไม่แสดงความรู้สึกออกมาขณะนี้บางอย่างในจิตวิญญาณของผมได้แต่ร้องไห้เท่านั้นผมเห็นความต้องการอยู่ในดวงตาสีน้ำเงินของคุณ[2] Baby, I'd love you to want me The way that I want you The way that it should be Baby, you'd love me to want you The way that I want to If you'd only let it be.ที่รัก ผมอยากให้คุณต้องการผมอย่างที่ผมต้องการคุณอย่างที่มันควรจะเป็นที่รัก ผมอยากให้คุณต้องการผมอย่างที่ผมต้องการคุณถ้าเพียงแต่คุณปล่อยให้มันเป็น (ตามธรรมชาติYou told yourself years ago You'd never let your feeling show The obligation that you made For the title that they gave.คุณบอกตัวเองหลายปีมาแล้วคุณจะไม่แสดงความรู้สึกของคุณออกมาเลยข้อผูกพันธ์ที่คุณได้กระทำขึ้นมามันก็เป็นอย่างที่คนอื่นๆเขาว่าคุณ[2] [1] [2]Vocabulary Itemsbout = about (adv) เกือบFor the title that they gave. =มันก็เป็นอย่างที่คนอื่นๆเขาว่าคุณI felt the blood go to my feet.= ผมรู้สึกเวียนศรีษะจะเป็นลม เลือดไหลลงสู่เท้าI'd love you to want me =ผมอยากให้คุณต้องการผมIf you'd only let it be. =ถ้าเพียงแต่คุณปล่อยให้มันเป็น ตามธรรมชาติit took time = มันใช้เวลา มันเสียเวลาobligation (n) = ข้อผูกพันธ์soul (n) = วิญญาณ
10 พฤษภาคม 2563     |      221
I Won't Let You Walk Away
I Won't Let You Walk Away (ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณเดินจากไปMadison Beerแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I know I won't stop if you give me the keys 'Cause I can drive it like a criminal I won't watch if you want me to leave 'Cause I keep lookin' back for a miracle.ฉันรู้ว่าฉันจะไม่หยุดถ้าคุณให้กุญแจแก่ฉัน เพราะฉันสามารถขับได้เหมือนอาชญากร ฉันจะไม่ดูถ้าคุณต้องการให้ฉันออกไป เพราะว่าฉันกำลังเฝ้ามองดูด้านหลังเพื่อสิ่งมหัศจรรย์[1] I'm just a lighter without a spark, Take a bullet right straight through the heart, Oh, I've made my mistakes, But I won't let you walk away!ฉันก็เป็นเพียงไฟแช็คที่ไม่มีประกายไฟ จงยิงกระสุนปืนพุ่งตรงเข้าสู่หัวใจ โอ้...ฉันได้ทำผิดพลาดเองไปแล้ว แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเดินหนีจากไป!Please don't tell me you're gone 'cause Baby, I want this Please don't give it too long 'cause Baby, I got this. Please don't tell me you're gone 'cause Baby, I want this Please, 'cause I won't let you walk away.โปรดอย่าบอกฉันว่าคุณจากไปแล้ว เพราะว่า ที่รัก ฉันต้องการสิ่งนี้ โปรดอย่าทำให้มันยาวนานเกินไป เพราะว่า ที่รัก ฉันได้รับสิ่งนี้ ได้โปรดอย่าบอกฉันว่าคุณจากไปแล้ว เพราะว่า ที่รัก ฉันต้องการสิ่งนี้ ได้โปรดเถิด เพราะว่าฉันจะไม่ยอมให้คุณเดินหนีจากไปI got my windows down, getting lost in the breeze And I feel like I'm causing a fairytale I can't stop wanting you next to me 'Cause I keep holding up for a miracle.ฉันเลื่อนหน้าต่างลง ปล่อยใจเหมอลอยไปกับสายลมโชย            และฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันเป็นต้นเหตุให้เกิดเทพนิยาย            ฉันหยุดความต้องการไม่ได้ที่อยากให้คุณอยู่ใกล้ฉัน            เพราะว่า ฉันไฝ่ฝันหาอยากให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์[1][2] I won't let you walk away! Oh oh oh oh oh oh oh oh Oh oh oh oh oh oh oh oh Oh oh oh oh oh oh oh oh I won't let you walk awayฉันจะไม่ยอมให้คุณเดินหนีจากไปโอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...โอ้...ฉันจะไม่ยอมให้คุณเดินหนีจากไป[2]Vocabulary Itemscriminal (n) = อาชญากรlook back (v) = มองย้อนหลังmiracle (n) = สิ่งมหัศจรรย์lighter (n) = ไฟแช็คspark (n) = เปลวไฟbullet (n) = ลูกปืนright straight (adj) = ตรงดิ่งExpressionsI can’t stop + V-ing (ผมหยุดไม่ได้ที่จะผมอดไม่ได้ที่จะเช่นI can’t stop wanting you next to me. = ผมอดความต้องการไม่ได้ที่อยากให้คุณอยู่ใกล้ฉันI can’t help + V-ing (ผมหยุดไม่ได้ที่จะผมอดไม่ได้ที่จะเช่นI can’t help laughing very loud. = ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังI can’t stand + V-ing/N/Pro (ผมทนไม่ได้ที่จะผมอดทนไม่ได้ที่จะเช่นI can’t stand the smell of durian. = ผมทนกลิ่นทุเรียนนั้นไม่ได้I can’t bear + V-ing/N/Pro (ผมทนไม่ได้ที่จะผมอดทนไม่ได้ที่จะเช่นI can’t bear him any longer. = ฉันอดทนเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้วLet + Obj + infinitive without to = ปล่อยไป ยอมให้ อนุญาตให้ เช่นI just can’t let you walk away. = ผมเพียงแต่ไม่สามารถปล่อยให้คุณเดินจากไปได้Let me go. = ปล่อยผมไปLet’s do it again. = ทำกันอีกครั้งหนึ่งเถอะโครงสร้างภาษาSimple Present Tenseปัจจุบันกาลอย่างง่าย เพื่อใช้บ่งบอกว่า เหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นปกติวิสัยในขณะที่พูด หรือเกิดขึ้นบ่อยๆเป็นประจำ เช่นI just can’t let you walk away.You want his love much more than mineI don't want no one but you.Present Perfect Tenseปัจจุบันกาลสมบูรณ์ เพื่อใช้บ่งบอกว่า เหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ดำเนินติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน และอาจเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตได้ด้วย เช่นWe have never met. เราไม่เคยพบกันมาก่อนเลยSimple Future Tenseอนาคตกาลอย่างง่าย เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นI will just say…That will not stop my loving you. Subjunctive Moodปริกัลบมาลาคือประโยคที่แสดงความต้องการ ความปรารถนา แนะนำ ตักเตือน เชิญชวน ขอร้อง หรือแสดงเงื่อนไขสมมติ ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงโครงสร้างประโยคCould/would/might/should + simple verb in Present TenseCould/would/might/should + have + p.p. (past participle) verb in Past Tense เช่นGuess I could find somebody, too.เดาซิว่า ผมก็สามารถหาคนรักใหม่ได้เช่นกันแต่ผมไม่ทำHow could you leave without regret? คุณจากผมไปโดยไม่โศกเศร้าเสียใจได้อย่างไร?แต่คุณควรจะเสียใจAm I that easy to forget? = ผมเป็นคนที่ถูกลืมได้ง่ายๆเลยหรือ
10 พฤษภาคม 2563     |      226
Icy Blue Heart
Icy Blue Heartหัวใจที่หนาวเย็นEmmylou Harrisแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์She came on to him like a slow moving cold front His beer was warmer than the look in her eye She sat on the stool, and she said, "What do you want?" She said, "Give me a love that don't freeze up inside" He said, "I have melted some hearts in my time, dear But to sit next to you, Lord, I shiver and shake And if I knew love, well, I don't think I'd be here Asking myself if I had what it takes"หล่อนเดินเข้ามาหาเขาเหมือนอย่างคลื่นความหนาวเย็นที่เคลื่อนตัวเข้ามาช้าๆเบียร์ของเขายังอุ่นกว่าการมองดูจากสายตาของเธอหล่อนนั่งลงที่ม้านั่งสูง และพูดว่า “คุณต้องการอะไรหล่อนพูดว่า “จงให้ความรักที่มันไม่หนาวเย็นข้างในแก่ฉันเขาพูดว่า “ผมเคยหัวใจอ่อนละลายครั้งหนึ่งแล้ว ที่รักแต่ว่า การนั่งใกล้คุณ พระผู้เป็นเจ้าเอ๋ย ผมรู้สึกหนาวและสั่นและถ้าผมรู้จักความรัก อ้า...ผมก็ไม่คิดว่าผมควรจะอยู่ที่ตรงนี้ถามตัวของผมเองว่าผมได้รับเท่ากับสิ่งที่ความรักนำไปจากผมหรือเปล่า?”[1]To melt your icy blue heart Should I start to turn what's been frozen for years Into a river of tearsเพื่อให้หัวใจที่หนาวเย็นของคุณละลายฉันควรจะเริ่มต้นเปลี่ยนสิ่งที่ได้แข็งตัวเป็นน้ำแข็งเป็นเวลานับปีแล้วให้เป็นแม่น้ำแห่งน้ำตาหรือเปล่า?These days we all play cool calm and collected Our lips could turn blue just shooting the breeze But under the frost, we thought he detected A warm blush of red, and the touch of her knee He said, "You're a beauty like I've never witnessed And I've seen the northern lights dance in the air But I've felt the cold that can follow the first kiss And there's not enough heat in the fires burning there"ทุกวันนี้เราต่างก็เล่นบทของความเงียบเย็นชา และควบคุมอารมณ์ไว้รีมฝีปากเราสามารถทำให้เกิดความเย็นจัดได้ เช่นเดียวกับสายลมกรรโชกแต่ว่าภายใต้น้ำค้างที่แข็ง เราคิดว่าเขาค้นพบว่าความอบอุ่นของของการเหนี่ยมอายจนหน้าแดง และการสัมผัสเข่าของเธอเขาจึงพูดว่า “คุณเป็นคนที่สวยอย่างที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยและผมเคยเห็นแสงเหนือเต้นอยู่ในอากาศแต่ว่าผมรู้สึกถึงความเย็นที่ติดตามมากับการจูบครั้งแรกและไม่มีความร้อนเพียงพอในไฟที่กำลังลุกไหม้นั้นเลย”[1] Vocabulary Itemsa warm blush of red = แก้มเป็นสีแดงและอุ่นเพราะประหม่าbreeze (n) = สายลมเบาๆcold front (n) = คลื่นความหนาวcollected (adj) = ควบคุมอารมณ์ได้follow (v) = ตามมา เกิดตามมาfreeze up (v) = แข็งจนเป็น้ำแข็งfreeze, frozen = แข็งจนเป็น้ำแข็งfrost (n) = น้ำค้างที่แข็งheat (n) = ความร้อนicy blue (adj) = หนาวมาก หนาวมากจนปากและมือเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินif I had what it takes = ฉันได้รับเท่ากับสิ่งที่ความรักนำไปหรือเปล่า?into a river of tears = ในแม่น้ำน้ำตา มีน้ำตาไหลนองออกมามากมายknee (n) = เข่าmelt (v) = ละลายเป็นน้ำnext to (prep) = ถัดจากnorthern lights (n) = แสงเหนือ แสงที่ขั้วโลกเหนือshake (v) = สั่นshiver (v) = รู้สึกหนาวstool (n) = เก้าอี้ที่นั่งสูงtouch (v) = สัมผัสwarm (adj) = อบอุ่นwitness (v) = พบเห็น เป็นพะยาน
10 พฤษภาคม 2563     |      202
I'll Give My Heart to You
I’ll Give My Heart to You (ผมจะให้หัวใจผมแก่คุณBuck Owensแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์[1] If you'll hold me close and kiss me Promise that you'll always miss me Say you'll never never, never be untrue If you swear you'll always love me And you'll place no one above me Well, then I'll give my heart to youถ้าคุณกอดผมไว้แนบชิดและจูบผมสัญญาว่าคุณจะคิดถึงผมเสมอพูดว่าคุณจะไม่มีวันไม่ซื่อสัตย์ต่อผมเลยถ้าคุณสาบานว่า คุณจะรักผมเสมอและคุณจะไม่มีใครอื่นใดเหนือตัวผมอ้า...แล้วละก้อผมจะให้หัวใจผมแก่คุณIf I'm number one in your heart If you're sure that we'll never part If you're ready now to make my dreams come true Well, then I'll give my heart to youถ้าผมเป็นหมายเลข 1 ในหัวใจคุณถ้าคุณแน่ใจว่าเราจะไม่มีวันพรากจากกันเลยถ้าคุณพร้อมที่จะทำให้ความหวังของผมเป็นจริงในตอนนี้อ้า...แล้วละก้อผมจะให้หัวใจผมแก่คุณ[1]Well, if you're all through painting the town If you're ready now to settle down If you're sure I'm the only one for you Well then, I'll give my heart to youอ้า ถ้าคุณได้ออกไปเที่ยวฉลองดื่มกินข้างนอกแล้วถ้าคุณตอนนี้พร้อมที่จะลงหลักปักฐานถ้าคุณแน่ใจว่าผมเป็นเพียงคนเดียวสำหรับคุณอ้า...แล้วละก้อผมจะให้หัวใจผมแก่คุณ[1]Vocabulary Itemsclose (adj) = ใกล้ชิด แนบแน่นhold (v) = กอด จับ ยึดเหนี่ยวไว้ miss (v) = คิดถึงpart(v) = หนีจากไปpromise (v) = สัญญาsure (adj) = แน่ใจswear (v) = สาบานuntrue(adj) = ไม่ซื่อสัตย์ ทรยศExpressionsif you're all throughถ้าคุณได้ผ่านพ้น....แล้วI'm number one in your heartผมเป็นลำดับที่ 1 ในหัวใจคุณI'm the only one for youผมเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นสำหรับคุณpainting the town= ฉลอง ดื่มกินนอกบ้าน จนเมาplace no one above me= ไม่วางลำดับที่ให้คนอื่นเหนือผม ไม่ให้คนอื่นมีความสำคัญมากกว่าผมto settle down= ลงหลักปักฐาน
10 พฤษภาคม 2563     |      188
I Just Can't Walk Away
I Just Can't Walk Awayผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้Four Topsแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Once again we said it's over And just like before We vowed to take no more Ooh, but I suddenly I find That every time Your face comes into viewอีกครั้งที่เราพูดว่ามันจบสิ้นแล้ว และเหมือนเมื่อก่อนเลย เราสาบานที่จะไม่ทนต่อไปอีก โอ้... แต่ทันใดนั้นผมก็พบ ว่าทุกครั้ง ใบหน้าของคุณปรากฏให้เห็นAnd then you touch me The way that you do I just can't walk away Whenever you touch me I give in to you And I just can't walk away I just can't walk awayและแล้วคุณก็สัมผัสผม ด้วยวิธีที่คุณทำตามปกติ ผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณสัมผัสผม ผมยอมแพ้คุณ และผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้ ผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้Sometimes angry words with you Make me lose my head But memories unwind To find my hear again Ooh, but I stubbornly I go And this time I am sure 'Cause I'm reaching for the doorบางครั้งคำโต้เถียงเพราะโกรธกับคุณ ทำให้ผมทำหัวเสีย แต่ความทรงจำกลับฟื้นคืนมา เพื่อหาสิ่งที่ผมได้ยินอีกครั้ง โอ้...แต่ผมหัวดื้อว่าผมจะจากไป และครั้งนี้ผมก็มั่นใจ เพราะผมกำลังจะถึงประตูแล้วAnd I feel your hand touch me And my heart gives in I just can't walk away Whenever you touch me My heart always wins And I just can't walk away No, we just can't walk awayและผมรู้สึกว่ามือของคุณสัมผัสผม และหัวใจของผมก็ยอมแพ้ ผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณสัมผัสผม และหัวใจของผมก็ชนะเสมอ และผมไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากไปได้ ไม่ได้ เราไม่สามารถเพียงแต่เดินหนีจากกันไปได้Vocabulary Itemsangry words (n) = คำด่าทอgive in (v) = ยอมแพ้ ยกธงขาวit's over. = มันจบสิ้นแล้วmemory (n) = ความทรงจำreach (v) = ไปถึง เอื้อมถึงstubbornly (adv) = อย่างหัวดื้อ อย่างเอาแต่ใจ อย่างดื้อด้านsuddenly (adv) = ทันทีทันใดนั้นto take no more = ไม่ทนต่อไปอีกtouch (v) = สัมผัสunwind (v) = คืนกลับที่เดิม ผ่อนคลายvow (v) = สาบานwhenever (adv) = เมื่อใดก็ตามwin (v) = ชนะExpressionscome into view (v) = มองเห็น ปรากฏให้เห็นmake me lose my head. = ทำให้ผมทำหัวเสียthe way that you do. = ด้วยวิธีที่คุณทำตามปกติ
10 พฤษภาคม 2563     |      243
I Will be Home for Christmas
I’ll be Home for Christmas (ผมจะกลับมาบ้านเพื่อวันคริสต์มาสElvis Presleyแปลโดย รศ. ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I'll be home for Christmas, You can plan on me. Please have snow and mistletoe And presents for the tree.ผมจะกลับมาบ้านเพื่อวันคริสต์มาสคุณสามารถวางแผนที่มีผมร่วมงานด้วยได้เลยโปรดจงมีหิมะและต้น mistletoe ด้วยนะและมีของขวัญประดับต้นไม้ด้วยChristmas Eve will find me Where the love light leads. I'll be home for Christmas, oh yes If only in my dreams. (=I wish that, Would that, regretfullyคืนก่อนวันคริสต์มาสคุณจะพบผม            ตรงบริเวณที่มีแสงแห่งความรักอยู่            ผมจะกลับบ้านเพื่อวันคริสต์มาส  โอ้  ใช่แล้ว            น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงความฝันของผมเท่านั้นนะVocabulary ItemsChristmas Eve (n) = วันก่อนวันคริสมาสต์ คือวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกๆปีIf only = ถ้าเพียงแต่ ขอเพียงแต่น่าเสียดายที่ผมอยากให้If and only if = ก็ต่อเมื่อ เช่น A = B if and only if A = 5 and B=5.If only in my dreams. = น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงความฝันของผมเท่านั้นนะMistletoe (n) = ต้นไม้กาฝากชนิดหนึ่ง ใบเป็นมัน ขอบหยักเป็นหนามแหลม มีพิษ สีเขียวตลอดปี ใช้ตกแต่งประดับในเทศกาลคริสต์มาสplan on (v) = วางแผนที่เกี่ยวข้องกับPresent (n) = ของขวัญGrammarการใช้ If only… แปลว่า ถ้าเพียงแต่ ขอเพียงแต่น่าเสียดายที่ผมอยากให้ใช้แสดงความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้และเสียใจ เช่นIf only I could stop working and go hiking with you. = ผมอยากจะหยุดทำงานและไปเที่ยวเดินป่ากับคุณ แต่น่าเสียดายที่หยุดไม่ได้If only I had listened to you. =ถ้าเพียงแต่ว่า ผมได้เชื่อฟังคุณ น่าเสียดายที่ผมไม่ได้เชื่อฟังคุณMost fishermen have a wish list of places they would love to fish if only they could afford it. = นักตกปลามีรายการสถานที่ที่พวกเขาไฝ่ฝันอยากไปตกปลามาก เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินได้So could Arianna, if only she could hide her smarts and play the game of politics.ใช้แสดงความปรารถนาในอดีต (Earlier time) [Had + V3] เช่นIf only I had known you were coming. ขอเพียงแค่ฉันรู้ว่าคุณกำลังมา (ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่า คุณกำลังมา)If only she hadn’t told the police. ขอเพียงแค่เธอไม่ได้ไปบอกตำรวจ (ตอนนั้นเธอบอกตำรวจไปแล้ว)ใช้แสดงความปรารถนาในปัจจุบัน (Same time) [V2, was/were + Ving] เช่นIf only she knew. ขอเพียงแค่เธอรู้ (ปัจจุบัน เธอไม่รู้)If only you knew how much I love you. ขอเพียงแค่เธอรู้ว่าฉันรักเธอมากเท่าไหร่ (ปัจจุบัน เธอไม่รู้)If only you were here. ขอเพียงแค่เธออยู่ที่นี่ (ปัจจุบัน เธอไม่ได้อยู่ที่นี่)If only I was better-looking! ขอเพียงแค่ฉันดูดีขึ้น (ปัจจุบัน ฉันดูไม่ดีเท่าไหร่)ใช้แสดงความปรารถนาในอนาคต (Later time) [Would + V1] เช่นIf only someone would smile. ขอเพียงแค่ใครบางคนยิ้ม (ตอนนี้ไม่มีใครสักคนยิ้มเลย)การใช้ Wish (v)  หมายถึง ปรารถนาดี หรือต้องการ มีวิธีใช้ดังนี้ 1. to wish to do something เป็นความปรารถนาหรือต้องการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นไปได้ เช่นWe wish to booksome seats for the concert.Do you wish to sithere , sir?She wishes to goto the party. to wish someone something เป็นความปรารถนาให้ผู้อื่น ได้รับความสุขสำเร็จหรือสิ่งที่ดีงาม เช่นWewish him all the best.Iwish you a Happy New Year.Iwish you success and happiness.Iwish you a Merry ChristmasIwish you the very best of luck to wish (that) + noun clauseประโยคที่ใช้ตามหลัง wish นั้นเป็นประโยคแสดงสิ่งที่ปรารถนาซึ่งตรงข้ามกับความเป็นจริง หรือปรารถนาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น3.1 ความปรารถนาในปัจจุบัน โครงสร้างประโยค คือ wish + Past Simple   (wish = If only ซึ่งใช้แทนกันได้) เช่นDo youwish you lived in Americanow?Iwish I could speakWewish we weren'tso tired.3.2 ความปรารถนาในอนาคต เป็นการแสดงความปรารถนาสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ และตรงข้ามกับความเป็นจริงในอนาคตโครงสร้างประโยค คือ wish + S + would + V1เช่นIwish I could gowith you next Sunday. (ถ้าประธานเป็นคนเดียวกัน ใช้ could) (If only I could go with you next Sunday.)Iwish Jack would cometo my birthday party tomorrow evening. (= It's a pity Jack won't come.)Hewishes he could (=It's a pity he can't swim.)Shewishes I would gowith her. (=I'm sorry I won't go with her.)3.3 ความปรารถนาในอดีต เป็นการแสดงความปรารถนาสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ และตรงข้ามกับความเป็นจริงในอดีตโครงสร้างประโยค คือ wish + Past PerfectIwish you had beenhere yesterday. ฉันปรารถนาว่าคุณอยู่ที่นี่เมื่อวานนี้ (= It's a pity you weren't here yesterday.) ความเป็นจริงคือเมื่อวานคุณไม่ได้อยู่ที่นี่Iwish it hadn't rainedheavily yesterday. ความปรารถนาเหตุการณ์ในอดีต (=It's a pity it rained heavily yesterday. ความจริงในอดีต) Iwish I had workedharder last semester. ความปรารถนาเหตุการณ์ในอดีต (= It's a pity I didn't work harder last semester. ความเป็นจริงในอดีต)If only the weather had beenbetter yesterday. ความปรารถนาในอดีต(=It's a pity the weather wasn't better yesterday. ความเป็นจริงในอดีต)
10 พฤษภาคม 2563     |      717
ทั้งหมด 42 หน้า