Evergreen_Barbra Streisand
Evergreen (เขียวขจีตลอดปีBarbra Streisandแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Love soft as an easy chair Love fresh as the morning air One love that is shared by two I have found with youรักนุ่มนวลเหมือนกับเก้าอี้ท้าวแขน รักสดชื่นเหมือนกับอากาศตอนเช้า หนึ่งรักที่แบ่งปันกันโดยสองคน ฉันได้พบแล้วกับคุณLike a rose under the April snow I was always certain love would grow Love ageless and evergreen Seldom seen by twoเหมือนดอกกุหลาบภายใต้หิมะของเดือนเมษายน ฉันแน่ใจเสมอว่าความรักจะเจริญงอกงาม ความรักเป็นอมตะและเขียวขจีตลอดปี ไม่ค่อยได้เห็นโดยคนสองคนYou and I will make each night a first Every day a beginning Spirits rise and their dance is unrehearsed They warm and excite us, ‘cause we have the brightest loveคุณและฉันจะทำให้ทุกคืนเป็นครั้งแรก ทุกวันเป็นการเริ่มต้น จิตใจสูงส่งขึ้นและการเต้นรำของจิตใจไม่ต้องมีการซักซ้อม จิตใจทำให้เราอบอุ่นและตื่นเต้นเพราะเรามีความรักที่สดใสที่สุดTwo lives that shine as one Morning glory and midnight sun Time we've learned to sail above Time won’t change the meaning of one love Ageless and ever evergreenสองชีวิตที่ส่องแสงเป็นหนึ่งเดียว ยามเช้าที่สดใสและพระอาทิตย์เที่ยงคืน เวลาที่เราเรียนรู้เพื่อแล่นเรือไปเหนือสายน้ำ เวลาจะไม่เปลี่ยนความหมายของความรักเดียว อมตะและเขียวขจีตลอดปี Vocabulary Itemsageless (adj) = อมตะ ไม่มีอายุสิ้นสุดbrightest (adj) = สดใสที่สุดcertain (adj) = แน่นอนchange (v) = เปลี่ยนแปลงeasy chair (n) = เก้าอี้ท้าวแขนevergreen (adj) = เขียวขจีตลอดปีexcite (v) =ทำให้ตื่นเต้นfresh (adj) = สดชื่นglory (n) = ความสดใส ความโชติช่วงmidnight (n) = เวลาเที่ยงคืนsail (v) = แล่นเรือSeldom (adv) = ไม่ค่อยได้เห็นหายาก นานๆครั้งshare (v) = แบ่งปัน ใช้ร่วมกันshine (v) = ส่องแสงsnow (n) = หิมะsoft (adj) = นุ่มนวลSpirit (n) = จิตใจ วิญญาณwarm (v) = ทำให้อบอุ่นExpressionsEvery day a beginning. = ทุกวันเป็นการเริ่มต้นทุกวันมีแต่สิ่งใหม่ๆTheir dance is unrehearsed. การเต้นรำของเขาไม่ต้องมีการซักซ้อมการเต้นรำทำได้ดีโดยไม่ต้องซักซ้อมYou and I will make each night a first. = คุณและฉันจะทำให้ทุกคืนเป็นครั้งแรก เหมือนพบกันครั้งแรก
25 พฤษภาคม 2563     |      290
Empty Feeling
Empty Feelingความรู้สึกที่ว่างเปล่าJohnny Tillotsonแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I've got an empty feeling since you've gone And I don't feel as though I can go on I can't go anywhere afraid I'll see you there Afraid I'll fall apart and then that empty feeling will start you're in my heartผมรู้สึกว่างเปล่าตั้งแต่คุณจากไป และผมไม่รู้สึกเหมือนกับว่าผมจะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ผมไปไหนไม่ได้เลย กลัวว่าผมจะพบคุณที่นั่น เกรงว่าผมจะแตกสลาย และจากนั้นความรู้สึกที่ว่างเปล่านั้นจะเริ่มต้นโดยมีคุณอยู่ในหัวใจผมI miss the lips I used to kiss each night I miss the arms that used to hold me tight The mention of your name just fills my heart with pain And so I fall apart and then that empty feeling just starts you're in my heartผมคิดถึงริมฝีปากที่ผมเคยจูบทุกคืน ผมคิดถึงอ้อมแขนที่เคยกอดผมไว้แน่น การเอ่ยถึงชื่อของคุณเพียงแค่เติมหัวใจของผมด้วยความเจ็บปวด และดังนั้นผมแตกสลาย และจากนั้นความรู้สึกที่ว่างเปล่านั้นจะเริ่มต้นโดยมีคุณอยู่ในหัวใจผมI never knew how lonely night could really be Until I got this empty feeling deep inside of me I miss the lips I used to kiss each night I miss the arms that used to hold me tightผมไม่เคยรู้เลยว่าคืนอันโดดเดี่ยวจะเป็นไปได้จริงๆอย่างไร จนกว่าผมจะมีความรู้สึกว่างเปล่านี้ลึกเข้าไปในตัวผม ผมคิดถึงริมฝีปากที่ผมเคยจูบทุกคืน ผมคิดถึงอ้อมแขนที่เคยกอดผมไว้แน่น The mention of your name just fills my heart with pain And so I fall apart and then that empty feeling just starts you're in my heart I can't go anywhere afraid I'll see you there Afraid I'll fall apart and then that empty feeling will start you're in my heartการเอ่ยถึงชื่อของคุณเพียงแค่เติมหัวใจของผมด้วยความเจ็บปวด และดังนั้นผมแตกสลาย และจากนั้นความรู้สึกที่ว่างเปล่านั้นจะเริ่มต้นโดยมีคุณอยู่ในหัวใจผม ผมไปไหนไม่ได้เลย กลัวว่าผมจะพบคุณที่นั่น เกรงว่าผมจะแตกสลาย และจากนั้นความรู้สึกที่ว่างเปล่านั้นจะเริ่มต้นโดยมีคุณอยู่ในหัวใจผมVocabulary Itemsafraid (adj) = กลัวว่า เกรงว่าas though (conj) = ดุจประหนึ่งว่า เหมือนกับว่าempty (adj) = ว่างเปล่าfall apart (v) = แตกสะลาย ล้มลงแตกกระจายfeeling (n) = ความรู้สึกfill (v) = เติม ใส่ บรรจุ ทำให้เต็มhold (v) = กอดรัดkiss (v) = จูบ จุมพิตlip (n) = ริมฝีปากlonely (adj) = โดดเดี่ยว อ้างว้าง mention (n) = การพูดถึง การกล่าวถึงmiss (v) = คิดถึง ถวิลหาpain (n) = ความเจ็บปวดsince (conj) = ตั้งแต่tight (adj) = แน่นused to (v) = เคย
25 พฤษภาคม 2563     |      793
El Condor Pasa - If I Could
El Condor Pasa - If I Couldถ้าผมสามารถทำได้Simon and Garfunkelแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I'd rather be a sparrow than a snail Yes I would, if I could, I surely would I'd rather be a hammer than a nail Yes I would, if I only could, I surely wouldผมอยากเป็นนกกระจอกมากกว่าเป็นหอยทาก ใช่ ผมจะเป็น ถ้าผมสามารถเป็นได้ ผมจะเป็นอย่างแน่นอน ผมอยากเป็นค้อนมากกว่าเป็นตะปู ใช่ ผมจะเป็น ถ้าผมสามารถเป็นได้ ผมจะเป็นอย่างแน่นอน Away, I'd rather sail away Like a swan that's here and gone A man gets tied up to the ground He gives the world its saddest sound Its saddest soundห่างไกลออกไป ผมอยากจะแล่นเรือห่างไกลออกไป เหมือนอย่างหงส์ที่มาถึงที่นี่แล้วบินจากไป ผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดไว้กับพื้น เขาส่งเสียงที่น่าเศร้าที่สุดของโลกให้แก่โลก เสียงที่น่าเศร้าที่สุดของโลกI'd rather be a forest than a street Yes I would, if I could, I surely would I'd rather feel the earth beneath my feet Yes I would, if I only could, I surely wouldผมอยากเป็นป่ามากกว่าเป็นถนน ใช่ ผมจะเป็น ถ้าผมสามารถเป็นได้ ผมจะเป็นอย่างแน่นอน ผมอยากรู้สึกถึงโลกใต้เท้าของผม ใช่ ผมจะเป็น ถ้าผมสามารถเป็นได้ ผมจะเป็นอย่างแน่นอน Vocabulary Itemsbeneath (prep) = ใต้ ภายใต้earth (n) = โลกfoot, feet (n) = เท้าforest (n) = ป่าไม้get tied up (v) = ถูกมัดไว้ground (n) = พื้นดินhammer (n) = ค้อนI'd rather be = ผมอยากเป็นnail (n) = ตะปูsaddest (adj) = เศร้าที่สุดsail away (v) = แล่นเรือห่างไกลออกไปsnail (n) = หอยทากsound (n) = เสียงsparrow (n) = นกกระจอกstreet (n) = ถนนsurely (adv) = อย่างแน่นอนswan (n) = หงส์
25 พฤษภาคม 2563     |      1836
Dreamy Eyes
Dreamy Eyes (ดวงตาชวนฝันJohnny Tillotsonแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Dreamy eyes You've got such dreamy eyes When I'm away from you I'm so alone and blueดวงตาชวนฝันคุณมีดวงตาที่ช่างชวนฝันอะไรเช่นนั้นเมื่อผมอยู่ห่างจากคุณผมรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและเหงามากWhen I take you home I feel so all alone And then I realize I love you, Dreamy Eyesเมื่อผมพาคุณไปส่งที่บ้านผมรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมากและแล้วผมก็รู้สึกตัวว่าผมรักคุณ แม่ดวงตาชวนฝันYour eyes hold a dream of a love for two A love so warm and rare I hope to see that dream come true A dream we both can shareดวงตาของคุณทำให้เกิดความฝันเรื่องความรักของเราทั้งสองความรักที่อบอุ่นและหายากมากผมหวังที่จะเห็นความฝันนั้นเป็นจริงความฝันที่เราทั้งสองสามารถแบ่งปันกันได้Dreamy eyes You've got such dreamy eyes And I see paradise Within your dreamy eyesดวงตาชวนฝันคุณมีดวงตาที่ช่างชวนฝันอะไรเช่นนั้นและผมเห็นสวรรค์อยู่ในดวงตาชวนฝันของคุณYour eyes hold a dream of a love for two A love so warm and rare I hope to see that dream come true A dream we both can shareดวงตาของคุณทำให้เกิดความฝันเรื่องความรักของเราทั้งสองความรักที่อบอุ่นและหายากมากผมหวังที่จะเห็นความฝันนั้นเป็นจริงความฝันที่เราทั้งสองสามารถแบ่งปันกันได้Dreamy eyes You've got such dreamy eyes And I see paradise Within your dreamy eyesดวงตาชวนฝันคุณมีดวงตาที่ช่างชวนฝันอะไรเช่นนั้นและผมเห็นสวรรค์อยู่ในดวงตาชวนฝันของคุณVocabulary Itemsalone (adj) = รู้สึกเปล่าเปลี่ยวblue (adj) = เหงา เศร้าDreamy (adj) = ชวนฝัน hold (v) = ทำให้ ยึด เหนี่ยวรั้ง กอดรัดparadise (n) = สวรรค์rare (adj) = หายากrealize (v) = รู้ตัว ตระหนักรู้Share (v) = แบ่งปัน มีส่วนร่วมwarm (adj) = อบอุ่นaway from (adj) = อยู่ห่างจากExpressionsI feel so all alone. = ผมรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมากI hope to see that dream come true. = ผมหวังที่จะเห็นความฝันนั้นเป็นจริงI take you home. = ผมพาคุณไปส่งที่บ้าน You've got such dreamy eyes. = คุณมีดวงตาที่ช่างชวนฝันอะไรเช่นนั้นYour eyes hold a dream. = ดวงตาของคุณทำให้เกิดความฝัน
24 พฤษภาคม 2563     |      532
Chances Are
Chances Areโอกาสเป็นเพราะว่าJohnny Mathisแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์Chances are 'cause I wear a silly grin The moment you come into view Chances are you think that I'm in love with youโอกาสเป็นเพราะว่าผมมีรอยยิ้มแหยๆที่ดูโง่เขลา ช่วงเวลาที่คุณเข้ามาในระยะที่มองเห็นชัด โอกาสเป็นเพราะว่าคุณคิดว่าผมหลงรักคุณJust because my composure sort of slips The moment that your lips meet mine Chances are you think my heart's your Valentineเพียงเพราะการสำรวมกิริยาของผมดูเป็นคนเงียบ ช่วงเวลาที่ริมฝีปากของคุณสัมผัสกับของผม โอกาสเป็นเพราะว่าคุณคิดว่าหัวใจของผมเป็นวันวาเลนไทน์ของคุณIn the magic of moonlight when I sigh, hold me close, dear Chances are you believe the stars that fill the skies are in my eyesในความมหัศจรรย์ของแสงจันทร์เมื่อผมถอนหายใจ กอดผมไว้แนบชิด ที่รัก โอกาสเป็นเพราะว่าคุณเชื่อดาวที่เต็มท้องฟ้าอยู่ในดวงตาของผมGuess you feel you'll always be the one and only one for me And if you think you could Well, chances are your chances are awfully goodเดาว่าคุณรู้สึกว่าคุณจะเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นสำหรับผมเสมอ และถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ อ้า...โอกาสเป็นโอกาสของคุณที่ดีมากChances are you believe the stars that fill the skies are in my eyesโอกาสเป็นเพราะว่าคุณเชื่อดาวที่เต็มท้องฟ้าอยู่ในดวงตาของผมGuess you feel you'll always be the one and only one for me And if you think you could Well, chances are your chances are awfully goodเดาว่าคุณรู้สึกว่าคุณจะเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นสำหรับผมเสมอ และถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ อ้า...โอกาสเป็นโอกาสของคุณที่ดีมากThe chances are your chances are awfully goodโอกาสเป็นโอกาสของคุณที่ดีมากVocabulary Itemsawfully (adv) = มาก เยี่ยม วิเศษ ภาษาไม่เป็นทางการแย่มากbelieve (v) = เชื่อถือ chance (n) = โอกาสclose (adj) = ใกล้ชิด แนบชิดcomposure (n) = การสำรวมกิริยาgrin (n) = การยิ้มแหยๆguess (v) = เดาhold (v) = กอด ยึดเหนี่ยวไว้lip (n) = ริมฝีปากmagic (n) = ความมหัศจรรย์mine (pro) = ของผมmoment (n) = ช่วงเวลา วินาทีนั้นmoonlight (n) = แสงจันทร์sigh (v) = ถอนหายใจsort of slips = ดูเป็นคนเงียบstar (n) = ดวงดาวExpressionsawfully good = ดีมากcome into view (v) = มองเห็นfill the skies = เต็มท้องฟ้าI wear a silly grin. = ผมมีรอยยิ้มแหยๆที่ดูโง่เขลาI'm in love with you. = ผมหลงรักคุณYou come into view. = คุณเข้ามาในระยะที่มองเห็นชัด
24 พฤษภาคม 2563     |      212
And I Love Her
And I Love Her (และผมรักเธอKen Doddแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I give her all my loveThat's all I doAnd if you saw my loveYou'd love her tooผมให้ความรักทั้งหมดแก่เธอนั่นคือสิ่งทั้งหมดที่ผมทำและถ้าคุณเห็นคนรักของผมคุณก็จะรักเธอด้วยเช่นเดียวกันAnd I love herShe gives me everythingAnd tenderlyThe kiss my lover bringsและผมรักเธอ            หล่อนให้ผมทุกสิ่งทุกอย่าง            และอย่างนุ่มนวล            การจุมพิตที่คนรักของผมนำมาให้She brings to meAnd I love herA love like oursCould never dieเธอนำมาให้ผม            และผมรักเธอ            ความรักอย่างเช่นของเรา            จะไม่มีวันตายได้เลยAs long as IHave you near meBright are the stars that shineDark is the skyตราบเท่าที่ผม            มีคุณอยู่ใกล้กับผม            สว่างไสวคือดวงดาวที่ส่องแสง            มืดมิดคือท้องฟ้าI know this love of mineWill never dieAnd I love herAnd I love herผมรู้ความรักของผม            จะไม่มีวันตายเลย            และผมรักเธอ            และผมรักเธอA love like oursCould never dieAs long as IHave you near me            ความรักอย่างเช่นของเรา            จะไม่มีวันตายได้เลยตราบเท่าที่ผม            มีคุณอยู่ใกล้กับผมBright are the stars that shineDark is the skyI know this love of mineWill never dieAnd I love her            สว่างไสวคือดวงดาวที่ส่องแสง            มืดมิดคือท้องฟ้าผมรู้ความรักของผม            จะไม่มีวันตายเลย            และผมรักเธอVocabulary Itemsas long as (adv) = ตราบเท่าที่bright (adj) = สว่างไสว แจ่มจรัส bring (v) = นำมา นำมาให้dark (adj) = มืด ดำ สีดำdie (v) = ตายeverything (pro) = ทุกสิ่งทุกอย่างkiss (v, n) = จูบ การจูบ การจุมพิตlove (v, n) = รัก ความรัก คนรักlover (n) = คนรักshine (v) = ส่องแสงsky (n) = ท้องฟ้าstar (n) = ดวงดาวtenderly (adv) = อย่างนุ่มนวล อย่างถนุถนอม
24 พฤษภาคม 2563     |      231
A Place To Hide Away
A Place To Hide Awayสถานที่ซ่อนเร้นThe Carpentersแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์I've got to find a place to hide away Far from the shadows of my mind Sunlight and laughter, love ever after Oh how I long to find a place to hide awayฉันต้องหาที่ซ่อนเร้นสักแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไกลจากเงามืดในใจของฉัน ไกลจากแสงแดดและเสียงหัวเราะ ความรักตลอดไป โอ้...ฉันอยากจะหาที่ซ่อนเร้นสักแห่งหนึ่งมานานแล้ว I hear you whisper and I must obey Blindly I follow where you lead Knowing tomorrow, brings only sorrow Where can I go to find a place to hide away?ฉันได้ยินเสียงคุณกระซิบและฉันต้องเชื่อฟัง ฉันติดตามคุณไปยังที่คุณพาไปอย่างคนตาบอด รู้ว่าพรุ่งนี้นำความโศกเศร้ามาให้เท่านั้น ฉันจะสามารถไปหาที่ซ่อนเร้นสักแห่งได้ที่ไหนBright colored pinwheels go round in my head I run through the mist of the wine But night and the music remind me instead The world once was mineกังหันสีสดใสหมุนอยู่ในหัวของฉัน ฉันวิ่งผ่านสายหมอกแห่งเหล้าไวน์ แต่กลางคืนและเสียงเพลงก็เตือนตัวฉันแทนที่จะเป็น โลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของฉัน I'll save my pennies for a rainy day But where can I buy another you? Dreams are for sleeping, love is for weeping For how I long to find a place to hide awayฉันจะประหยัดเงินเพ็นนีไว้สำหรับวันที่มีปัญหา แต่ฉันจะหาซื้อคนอย่างคุณได้อีกจากที่ไหน ความฝันมีไว้เพื่อการนอนหลับ ความรักมีไว้เพื่อการร้องไห้ เพราะว่าฉันอยากจะหาที่ซ่อนเร้นสักแห่งหนึ่งมานานแล้ว But night and the music remind me instead The world once was mine I'll save my pennies for a rainy dayแต่กลางคืนและเสียงเพลงก็เตือนตัวฉันแทนที่จะเป็น โลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของฉัน ฉันจะประหยัดเงินเพ็นนีไว้สำหรับวันที่มีปัญหา But where can I buy another you? Dreams are for sleeping, love is for weeping For how I long to find a place to hide awayแต่ฉันจะหาซื้อคนอย่างคุณได้อีกจากที่ไหน? ความฝันมีไว้เพื่อการนอนหลับ ความรักมีไว้เพื่อการร้องไห้ เพราะว่าฉันอยากจะหาที่ซ่อนเร้นสักแห่งหนึ่งมานานแล้ว Vocabulary Itemsfind (v) = หา ค้นหาplace (n) = สถานที่hide away (v) = ซ่อนเร้นshadow (n) = เงาmind (n) = จิตใจsunlight (n) = แสงแดดlaughter (n) = เสียงหัวเราะlong to (v) = ปรารถนามานาน ถวิลหามานานwhisper (v) = กระซิบobey (v) = เชื่อฟังblindly (adv) = อย่างคนตาบอดfollow (v) = ติดตามlead (v) = นำพาไปsorrow (n) = ความโศกเศร้าpinwheel (n) = กังหัน ตะไล ประทัดชนิดหนึ่งgo round (v) = หมุนrun through (v) = วิ่งผ่านmist (n) = หมอกwine (n) = เหล้าไวน์remind (v) = เตือน เตือนความจำI'll save my pennies for a rainy day. = ฉันจะประหยัดเงินเพ็นนีไว้สำหรับวันที่มีปัญหา ฉันจะเก็บออมไว้เผื่อคราวมีปัญหาdream (v, n) = ฝัน ความฝันsleeping (n) = การนอนหลับweeping (n) = การกร้องไห้
24 พฤษภาคม 2563     |      408
A Lonely Rose
A Lonely RoseกุหลาบเดียวดายThe Brothers Fourแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์The game is done and all the doors are close,The loser fades away just like a rose,A lonely rose that never sees the sun,That only grows in shadows when love is gone,Just yesterday, I thought I saw your face,I swear I heard you singing "Amazing Grace",การละเล่นสิ้นสุดลงแล้วและประตูทั้งหมดก็ปิดผู้พ่ายแพ้ก็จางหายไปประดุจดังกุหลาบกุหลาบที่เดียวดายซึ่งไม่เคยเห็นแสงตะวันเลยเติบโตอยู่ในเงาเท่านั้นเมื่อความรักได้จากไปเพียงเมื่อวานนี้ ผมคิดว่าผมเห็นใบหน้าของคุณผมสาบานว่าผมได้ยินคุณกำลังร้องเพลง "พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่"I close my eyes and I can trace the touch,The warm and easy feeling that I miss so much,Come back to me in every dream I dream,I want to, hold you, want to make you stay,My love, I know it isn’t right to be lonely every night,            ผมหลับตาลงและยังสามารถสืบค้นหาการสัมผัส            ความรู้สึกไร้ปัญหาและอบอุ่นที่ผมคิดถึงอย่างมากล้นได้จงกลับมาหาผมในทุกความฝันที่ผมฝัน            ผมต้องการกอดคุณ ต้องการทำให้คุณอยู่            ที่รัก ผมรู้ว่ามันไม่ถูกต้องที่จะอยู่เดียวดายทุกๆคืนTo be stuck in yesterday,Will I survive on memories alone?I guess I’ll never know will I survive?A broken heart might never say goodbye,But soon the lonely rose will fade and die,            ที่ผูกติดอยู่กับเรื่องในอดีต            ผมจะมีชีวิตรอดไหมที่อยู่กับความทรงจำเท่านั้น?ผมเดาว่า ผมไม่มีวันรู้ได้ว่าผมจะมีชีวิตรอดหรือเปล่า?            หัวใจที่แตกสะลายอาจจะไม่เคยกล่าวคำอำลาจาก            แต่ว่าในไม่ช้ากุหลาบที่เดียวดายจะห่อเหี่ยวและตายไปCome back to me in every dream I dream,I want to, hold you, want to make you stay,My love, I know it isn’t right to be lonely might every night,To be stuck in yesterday,The game is done and all the doors are closed,จงกลับมาหาผมในทุกความฝันที่ผมฝัน            ผมต้องการกอดคุณ ต้องการทำให้คุณอยู่            ที่รัก ผมรู้ว่ามันไม่ถูกต้องที่จะอยู่เดียวดายทุกๆคืน            ที่ผูกติดอยู่กับเรื่องในอดีต            การละเล่นสิ้นสุดลงแล้วและประตูทั้งหมดก็ปิดThe loser fades away just like a rose,A lonely rose that never sees the sun,That only grows in shadows when love is gone,That grows in shadows when love is gone,That grows in shadows when love is gone,            ผู้พ่ายแพ้ก็จางหายไปประดุจดังกุหลาบ            กุหลาบที่เดียวดายซึ่งไม่เคยเห็นแสงตะวันเลย            เติบโตอยู่ในเงาเท่านั้นเมื่อความรักได้จากไป            เติบโตอยู่ในเงาเมื่อความรักได้จากไป            เติบโตอยู่ในเงาเมื่อความรักได้จากไปVocabulary Itemsalone (adv) = เท่านั้น เพียงอย่างเดียวเท่านั้นbreak, broke, broken (v) = แตก แตกสะลาย close (adj) = ปิดclose (v, adj) = หลับตา ปิดdie (v) = ตายdoor (n) = ประตูdream (v, n) = ฝัน การฝันeasy (adj) = สงบ สันติสุข ง่ายๆ ไร้ปัญหาface (n) = หน้า ใบหน้าfade (v) = จางหายไปfade away (v) = ค่อยๆจางหายไปfeeling (n) = ความรู้สึกgame (n) = การละเล่น เกมส์goodbye (n) = คำอำลาgrow (v) = เจิญเติบโตguess (v) = เดาhold (v) = กอด ยึดเหนี่ยวjust (adv, adj) = เท่านั้น เพียงเท่านั้น เพิ่งjust like (adj) = เช่นเดียวกับlonely (adj) = เดียวดาย โดดเดี่ยว อยู่ตามลำพังloser (n) = ผู้พ่ายแพ้memory (n) = ความทรงจำmiss (v) = คิดถึง ถวิลหาright (adj) = mถูกต้องrose (n) = ต้นกุหลาบ ดอกกุหลาบshadow (n) = เงา ร่มเงาstick, stuck, stuck (v) = ติดแน่นsun (n) = ดวงอาทิตย์survive (v) = มีชีวิตรอด รอดชีวิตto be done (pp) = สิ้นสุด จบสิ้น อวสานto be stuck in yesterday = ที่ผูกติดอยู่กับเรื่องในอดีต ที่คิดถึงแต่เรื่องในอดีตtouch (n) = การสัมผัสtrace (v) = สืบค้น ตามหา ตรวจสอบย้อนหลับwarm (adj) = อบอุ่นyesterday (n) = เมื่อวานนี้ เรื่องในอดีตyesterday (n) = เมื่อวานนี้ เรื่องในอดีต
25 พฤษภาคม 2563     |      2367
Zing! Went the Strings of My Heart_Judy Garland
Zing! Went the Strings of My Heart ปิ้งฉันรู้สึกมีความสุขเหลือล้น Judy Garlandแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์ สุกมลสันต์[1] Dear when you smiled at me, I heard a melody It haunted me from the start Something inside of me started a symphony Zing! Went the strings of my heartที่รัก เมื่อคุณยิ้มให้ฉัน ฉันก็ได้ยินเสียงทำนองดนตรีมันเข้าสิงฉันตั้งแต่เริ่มแรกบางอย่างในตัวฉันเริ่มต้นเป็นวงดนตรีประสานเสียงปิ้ง! ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือล้น[2] 'Twas like a breath of Spring, I heard a robin sing About a nest set apart All nature seemed to be in perfect harmony Zing! Went the strings of my heartมันเหมือนลมหายใจในฤดูใบไม้ผลิ ฉันได้ยินเสียงนักกางเขนร้องเกี่ยวกับรังของมันที่อยู่ไกลออกไปทุกอย่างในธรรมชาติดูเหมือนว่าจะกลมกลืนกันได้อย่างสมบูรณ์ปิ้ง! ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือล้น[3] Your eyes made skies seem blue again What else could I do again But keep repeating through and through "I love you, love you"ตาของคุณทำให้ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินอีกครั้งหนึ่งมีอะไรอื่นอีกล่ะที่ฉันจะสามารถทำได้อีก?นอกจากร้องซ้ำๆครั้งแล้วครั้งเล่าว่าฉันรักคุณ รักคุณ[4] I still recall the thrill, I guess I always will I hope 'twill never departI knew I love you keepsAnd you’re mine for keepsZing! Went the strings of my heartฉันยังคงนึกถึงความตื่นเต้นได้ ฉันคิดว่าฉันจะจำได้ตลอดไปฉันหวังว่า สิ่งนี้จะไม่มีวันเลือนหายไปได้เลยฉันรู้ว่าฉันรักคุณเช่นนี้และคุณก็เป็นของฉันที่เป็นเช่นนี้ปิ้ง! ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือล้น[1] [2] [3] [4]Vocabulary Itemsabout (prep) = เกี่ยวกับagain (adv) = อีกครั้งหนึ่งblue (adj) = สีน้ำเงินbreath (n) = การหายใจcome along (v) = เกิดขึ้นพร้อมกัน อยู่ที่นั้น ไปด้วยกันdear (n) = ที่รักdepart (v) =เลือนหายไป ละทิ้ง เริ่มต้นออกเดินทาง ตายelse (pro) = สิ่งอื่น อย่างอื่นguess (v) = เดา คิดharmony (n) = ความกลมกลืนhaunt (v) = สิง สิงสู่melody (n) = ทำนองเพลงnest (n) = รังนกperfect (adj) = สมบูรณ์ ไม่มีที่ตำหนิrecall (v) = ระลึกถึง นึกถึงrepeat (v) = ทำซ้ำrobin (n) = นกกางเขนset apart = ห่างไกลออกไป ดีเป็นพิเศษ แตกต่างจากปกติsky (n) = ท้องฟ้าsmile at (v) = ยิ้มให้Spring (n) = ฤดูใบไม่ผลิstart (v) = เริ่มต้นsymphony (n) = ดนตรีประสานเสียงthrill (n) = ความตื่นเต้นเร้าใจ'twas = that was, this was'twill = that will, this willwrong (adj) = ผิด ผิดพลาดzing! (n) = เสียงเริ่มต้นดนตรีปิ้งExpressionsAll nature seemed to be in perfect harmony. =ทุกอย่างในธรรมชาติดูเหมือนว่ากลมกลืนกันได้อย่างสมบูรณ์carry a tune = ร้องเพลงตามทำนองYou put a song in my heart = คุณทำให้หัวใจฉันมีดนตรี คุณทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขWent the strings of my heart สายเส้นของหัวใจฉันทำงาน ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือล้น
19 พฤษภาคม 2563     |      194
Zing! Went the Strings of My Heart_Frank Sinatra
Zing! Went the Strings of My Heartปิ้งผมรู้สึกมีความสุขเหลือล้นFrank Sinatraแปลโดย รศ.ดร. สุพัฒน์  สุกมลสันต์Never could carry a tune, never knew where to start You came along when everything was wrong and put a song in my heartไม่เคยร้องเพลงตามทำนองได้ ไม่เคยรู้ว่าจะเริ่มต้นร้องตรงไหนคุณอยู่ที่นั้นเมื่อทุกอย่างมันผิดพลาดและทำให้หัวใจผมมีดนตรีDear when you smiled at me, I heard a melody It haunted me from the start Something inside of me, started a symphony Zing! Went the strings of my heartที่รัก เมื่อคุณยิ้มให้ผม ผมก็ได้ยินเสียงทำนองดนตรีมันเข้าสิงผมตั้งแต่เริ่มแรกบางอย่างในตัวผมเริ่มต้นเป็นวงตนตรีประสานเสียงปิ้ง! ผมรู้สึกมีความสุขเหลือล้น'Twas like a breath of spring, I heard a robin sing About a nest set apart All nature seemed to be in perfect harmony Zing! Went the strings of my heartมันเหมือนลมหายใจในฤดูใบไม้ผลิ ได้ยินเสียงนักกางเขนร้องเกี่ยวกับรังของมันที่อยู่ห่างไกลทุกอย่างในธรรมชาติดูเหมือนว่าจะกลมกลืนกันได้อย่างสมบูรณ์ปิ้ง! ผมรู้สึกมีความสุขเหลือล้น[1] Your eyes made skies seem blue again What else could I do again Keep repeating through and through "I love you, love you"ตาของคุณทำให้ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินอีกครั้งหนึ่งมีอะไรอื่นอีกล่ะที่ผมจะสามารถทำได้อีก?ร้องซ้ำๆครั้งแล้วครั้งเล่าว่าผมรักคุณ รักคุณ[2] I still recall the thrill, I guess I always will I hope 'twill never depart All nature seemed to be in perfect harmony Zing! Went the strings of my heartผมยังคงนึกถึงความตื่นเต้นเร้าใจได้ ผมคิดว่าผมจะจำได้ตลอดไปผมหวังว่า สิ่งนี้จะไม่มีวันเลือนหายไปได้เลยทุกอย่างในธรรมชาติดูเหมือนว่าจะกลมกลืนกันได้อย่างสมบูรณ์ปิ้ง! ผมรู้สึกมีความสุขเหลือล้น[1][2]Vocabulary Itemsabout (prep) = เกี่ยวกับagain (adv) = อีกครั้งหนึ่งblue (adj) = สีน้ำเงินbreath (n) = การหายใจcome along (v) = เกิดขึ้นพร้อมกัน อยู่ที่นั้น ไปด้วยกันdear (n) = ที่รักdepart (v) =เลือนหายไป ละทิ้ง เริ่มต้นออกเดินทาง ตายelse (pro) = สิ่งอื่น อย่างอื่นguess (v) = เดา คิดharmony (n) = ความกลมกลืนhaunt (v) = สิง สิงสู่melody (n) = ทำนองเพลงnest (n) = รังนกperfect (adj) = สมบูรณ์ ไม่มีที่ตำหนิrecall (v) = ระลึกถึง นึกถึงrepeat (v) = ทำซ้ำrobin (n) = นกกางเขนset apart = ดีเป็นพิเศษ แตกต่างจากปกติsky (n) = ท้องฟ้าsmile at (v) = ยิ้มให้spring (n) = ฤดูใบไม่ผลิstart (v) = เริ่มต้นsymphony (n) = ดนตรีประสานเสียงthrill (n) = ความตื่นเต้นและยินดี'twas = that was, this was'twill = that will, this willwrong (adj) = ผิด ผิดพลาดzing! (n) = เสียงเริ่มต้นดนตรีปิ้งExpressionsAll nature seemed to be in perfect harmony. =ทุกอย่างในธรรมชาติดูเหมือนว่ากลมกลืนกันได้อย่างสมบูรณ์carry a tune = ร้องเพลงตามทำนองYou put a song in my heart = คุณทำให้หัวใจผมมีดนตรี คุณทำให้ผมรู้สึกมีความสุขWent the strings of my heart สายเส้นของหัวใจผมทำงาน ผมรู้สึกมีความสุขเหลือล้น
19 พฤษภาคม 2563     |      204
You're My World
You're My World (คุณคือโลกของฉันHelen Reddyแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์You're my world, you're every breath I take You're my world, you're every move I make Other eyes see the stars up in the sky But for me they shine within your eyesคุณคือโลกของฉัน คุณคือทุกลมหายใจของฉันคุณคือโลกของฉัน คุณคือการเลื่อนไหวทุกอย่างของฉัน            คนอื่นมองดูดวงดาวบนท้องฟ้า            แต่สำหรับฉันดวงดาวส่องสว่างอยู่ในดวงตาของคุณAs the trees reach for the sun above So my arms reach out to you for love With your hand resting in mine I feel a power so divine            ขณะที่ต้นไม้สูงขึ้นเพื่อรับแสงสว่าง            แขนของฉันก็เหมือนกันที่เอื้อมไปหาคุณเพื่อความรัก            เมื่อมือของคุณอยู่ในมือของฉัน            ฉันรู้สึกว่ามีพลังของเบื้องบนYou're my world, you are my night and day You're my world, you're every prayer I pray If our love ceases to be Then it's the end of my world for meคุณคือโลกของฉัน คุณเป็นทั้งกลางคืนและกลางวันของฉันคุณคือโลกของฉัน คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันปรารถนา            ถ้าความรักของเราสิ้นสุด            แล้วละก็มันก็คือวันที่โลกของฉันถึงกาลอวสานWith your hand resting in mine I feel a power so divine            เมื่อมือของคุณอยู่ในมือของฉัน            ฉันรู้สึกว่ามีพลังของเบื้องบนYou're my world, you are my night and day You're my world, you're every prayer I pray If our love ceases to be Then it's the end of my world End of my world, end of my world for meคุณคือโลกของฉัน คุณเป็นทั้งกลางคืนและกลางวันของฉันคุณคือโลกของฉัน คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันปรารถนาถ้าความรักของเราสิ้นสุด (หรือหยุดแล้วละก็มันก็คือวันที่โลกของฉันถึงกาลอวสานกาลอวสานของโลกฉัน กาลอวสานของโลกฉัน สำหรับฉันVocabulary Itemscease (v) ยกเลิก สิ้นสุดincrease (v) เพิ่มขึ้นdecrease (v) ลดลงExpressionsWith your hand resting in mine (in my hand)You're every prayer I pray.For me, the stars shine within your eyes.GrammarSimple Present Tense (ปัจจุบันกาลอย่างง่าย เพื่อใช้บ่งบอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นปกตินิสัยในปัจจุบัน เช่นIf our love ceases, then it's the end of my world.As the trees reach for the sun above,So my arms reach out to you for love.She is hungry. So am I. I am, too.
26 พฤษภาคม 2563     |      240
You Light Up My Life
You Light Up My LifeคุณจุดประกายชีวิตของฉันDebby Booneแปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์  สุกมลสันต์So many nights I'd sit by my window Waiting for someone to sing me his song So many dreams I kept deep inside me Alone in the dark but now you've come along            หลายคืนมากที่ฉันนั่งริมหน้าต่าง            รอคอยใครสักคนที่จะร้องเพลงให้ฉันฟัง            ฉันมีความฝันจำนวนมากมายอยู่ในใจ            อยู่คนเดียวในที่มืด แต่ว่าตอนนี้มีคุณอยู่ด้วยAnd you light up my life You give me hope to carry on You light up my days And fill my nights with song            และคุณจุดประกายชีวิตของฉันคุณให้ความหวังที่จะทำให้ชีวิตฉันดำเนินต่อไปได้            คุณทำให้วันเวลาของฉันสว่างขึ้น            และทำให้กลางคืนของฉันมีเสียงเพลงRollin' at sea, adrift on the water Could it be finally I'm turnin' for home Finally a chance to say "Hey, I love you" Never again to be all alone            ไปตามคลื่นทะเล ล่องลอยไปกับสายน้ำ            เป็นไปได้ไหมว่าในที่สุดฉันก็ได้กลับบ้าน?            ในที่สุดก็มีโอกาสที่จะพูดว่า “สวัสดีค่ะ ฉันรักคุณนะไม่มีวันอีกแล้วที่ฉันจะอยู่โดดเดี่ยวอีกต่อไปAnd you light up my life You give me hope to carry on You light up my days And fill my nights with song            และคุณจุดประกายชีวิตของฉันคุณให้ความหวังที่จะทำให้ชีวิตฉันดำเนินต่อไปได้            คุณทำให้วันเวลาของฉันสว่างขึ้น            และทำให้กลางคืนของฉันมีเสียงเพลง'Cause you, you light up my life You give me hope to carry on You light up my days And fill my nights with song            เพราะว่าคุณจุดประกายชีวิตของฉันคุณให้ความหวังที่จะทำให้ชีวิตฉันดำเนินต่อไปได้            คุณทำให้วันเวลาของฉันสว่างขึ้น            และทำให้กลางคืนของฉันมีเสียงเพลงIt can't be wrong When it feels so right 'Cause you You light up my lifeมันไม่ผิดเลย            เมื่อฉันรู้สึกดีมาก            เพราะว่าคุณ            คุณจุดประกายชีวิตให้ฉันVocabulary Itemsadrift (v) = ล่องลอยอย่างไร้จุดหมายall alone (adv) = ตามลำพังcarry on (v) = ดำเนินต่อไปchance (n) = โอกาสcome along (v) = ไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันdeep (adj) = ลึกfill (v) = บรรจุ เติมเต็ม ทำให้สมบูรณ์finally (adv) = ในที่สุด สุดท้ายlight up (v) = จุดประกาย จุดติด จุดไฟright (adj) = ถูกต้องroll (v) = กลิ้ง พลิกturn for (v) = กลับไปยังwait (v) = รอคอยwindow (n) = หน้าต่างwrong (adj) = ผิด
19 พฤษภาคม 2563     |      1362
ทั้งหมด 42 หน้า