Lavender Blue (ดอกลาเวนเดอร์สีน้ำเงิน)
Shelby Flint
แปลโดย รศ.ดร.สุพัฒน์ สุกมลสันต์
(Lavender ดอกไม้ชนิดหนึ่ง เป็นช่อคล้ายดอกหญ้า หรือดอกหงอนไก่ ปกติมีสีม่วงแดง และกลิ่นหอม)
Lavender blue, dilly, dilly
Lavender green
If you were king, dilly, dilly
You'd need a queen
ดอกลาเวนเดอร์สีน้ำเงิน สุขใจมาก สุขใจมาก
ดอกลาเวนเดอร์สีเขียว
ถ้าคุณเป็นพระราชา สุขใจมาก สุขใจมาก
คุณก็จะต้องมีราชินี
Who told me so, dilly, dilly
Who told me so?
I told myself, dilly, dilly
I told me so
ใครบอกฉันเช่นนั้น? สุขใจมาก สุขใจมา
ใครบอกฉันเช่นนั้น?
ฉันบอกตัวเอง สุขใจมาก สุขใจมาก
ฉันบอกตัวเองเช่นนั้น
If your dilly, dilly heart
Feels a dilly, dilly way
And if you'll answer "yes"
There's a dilly, dilly church
On a dilly, dilly hill
ถ้าหัวใจคุณมีสุขมาก
รู้สึกชื่นชมยินดีปรีดา
และถ้าคุณจะตอบว่า “ตกลง”
ก็จะมีเรื่องน่าหรรษาที่โบสถ์
ซึ่งอยู่บนเนินเขาที่น่ารื่นรมย์
I'll be dressed in a dilly, dilly dress of
Lavender blue, dilly, dilly
Lavender green
Then you'll be king, dilly, dilly
ฉันก็จะแต่งชุดที่แสดงความสุข
เป็นดอกลาเวนเดอร์สีน้ำเงิน สุขใจมาก สุขใจมาก
ดอกลาเวนเดอร์สีเขียว
แล้วคุณก็จะเป็นพระราชา สุขใจมาก สุขใจมาก
And I'll be your queen
If your dilly, dilly heart
Feels a dilly, dilly way
And if you'll answer "yes"
และฉันก็จะเป็นราชินีของคุณ
ถ้าหัวใจคุณที่มีสุขมาก
รู้สึกชื่นชมยินดีปรีดา
และถ้าคุณจะตอบว่า “ตกลง”
There's a dilly, dilly church
On a dilly, dilly hill
I'll be dressed in a dilly, dilly dress of
Lavender blue, dilly, dilly
ก็จะมีเรื่องน่าหรรษาที่โบสถ์
ซึ่งอยู่บนเนินเขาที่น่ารื่นรมย์
และถ้าคุณจะตอบว่า “ตกลง”
ฉันก็จะแต่งชุดที่แสดงความสุข
เป็นดอกลาเวนเดอร์สีน้ำเงิน สุขใจมาก สุขใจมาก
Lavender green
Then you'll be king, dilly, dilly
And I'll be your queen
ดอกลาเวนเดอร์สีเขียว
แล้วคุณก็จะเป็นพระราชา สุขใจมาก สุขใจมาก
และฉันก็จะเป็นราชินีของคุณ
***************************************************************************
Vocabulary Items
- dilly (adj). = delightful (น่ารื่นรมย์ สุขใจมาก น่าหรรษา รู้สึกยินดีปรีดา), remarkable (น่าจดจำ), wonderful (วิเศษ มหัสจรรย์), unusual (ไม่ธรรมดา) extraordinary (แตกต่างจากทั่วๆไป) delicious (รส หรือกลิ่นที่น่าชื่นชมยินดี)
- dilly (n) = ของบางอย่าง หรือคนบางคนที่น่าจดจำมาก (something or someone regarded as remarkable)
- church (n) = โบสถ์ของศาสนาคริสต์
- lavender (n) = กระเทย ผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนผู้หญิง (slang)
Grammar
Conditional sentences (ประโยคเงื่อนไข หรือ if-clause)
ประโยคเงื่อนไข คือประโยคที่ประกอบด้วยอนุประโยค (ประโยคย่อย) สองประโยค ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า If กับอีกประโยคหนึ่งเป็นประโยคที่สมบูรณ์ อนุประโยคสองประโยคนี้สามารถสลับที่กันได้ แล้วแต่การเน้นความหมาย
ประโยคเงื่อนไขมีอยู่ 4 ชนิด คือ
- ZERO Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขชนิดศูนย์)
ประโยคชนิดนี้ใช้สำหรับพูดถึงความจริงทั่วไปที่เป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ present simple tense ในอนุประโยคทั้งสองประโยค กล่าวคือ
If + present simple tense, + present simple tense
ตัวอย่าง เช่น
- If you touch a fire, you get burned. ถ้าคุณแตะไฟ ไฟก็ไหม้คุณ
- People die if they don't eat. คนตายถ้าไม่กินอาหาร
- You get water if you mix hydrogen and oxygen. คุณได้น้ำถ้าคุณรวมไฮโดรเจนกับอ๊อกซิเจน
- Snakes bite if they are scared. งูกัดถ้ามันถูกทำให้ตกใจกลัว
ประโยคเงื่อนไขชนิดนี้สามารถใช้คำว่า when (เมื่อ) แทน if ก็ได้
- FIRST Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 1)
ประโยคชนิดนี้ใช้สำหรับพูดความจริงที่เป็นไปได้ในปัจจุบันว่า ถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น โดยใช้ present simple tense และ future simple tense ในอนุประโยค กล่าวคือ
- If + present simple tense, + future simple tense
ตัวอย่าง เช่น
- If it rains, I won't go to the park. ถ้าฝนตก ผมจะไม่ไปสวนสาธารณะ
- If I have enough money, I'll buy some new shoes. ถ้าผมมีเงินพอ ผมจะซื้อรองเท้าใหม่
- She'll be late if the train is delayed. เธอจะไปสายถ้ารถไฟมาช้า
- She'll miss the bus if she doesn't leave soon. เธอจะไม่ทันรถเมล์ถ้าเธอไม่ออกจากบ้านในไม่ช้านี้
- If I see her, I'll tell her. ถ้าผมพบหล่อน ผมจะบอกหล่อน
ประโยคเงื่อนไขชนิดนี้สามารถใช้คำว่า should แทน if ก็ได้
3. SECOND Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 2)
ประโยคชนิดนี้ใช้สำหรับพูดความจริงที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันว่า หากแต่เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นว่าเป็นจริงว่า ถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งคงจะ น่าจะ หรืออาจจะเกิดขึ้น โดยใช้ past simple tense และ past in the future simple tense ในอนุประโยค กล่าวคือ
- If + past simple tense, + past in the future simple tense
ตัวอย่าง เช่น
- If I won the lottery, I would buy a big house. ถ้าผมถูกล็อตเตอรี่ ผมคงจะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ผมคงไม่ถูกล็อตเตอรี่ และได้ซื้อบ้านหลังใหญ่หรอก)
- She would travel all over the world if she were rich. หล่อนคงจะเที่ยวรอบโลกถ้าหล่อนร่ำรวย (หล่อนไม่ร่ำรวย และคงไม่มีโอกาสเที่ยวรอบโลกหรอก)
- She would pass the exam if she studied hard. เธอคงจะสอบผ่าน ถ้าหล่อนเรียนหนัก (ซึ่งผมคิดว่า หล่อนคงสอบไม่ผ่านหรอก เพราะว่าหล่อนไม่เรียนหนักเท่าที่ควร)
- If I had his number, I would call him. ถ้าผมมีเบอร์เขา ผมคงจะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา เลยไม่ได้โทรหาเขา)
- If I were you, I wouldn't go out with that man. ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงจะไม่ไปเที่ยวกับผู้ชายคนนั้น (ผมเป็นคุณไม่ได้ ดังนั้นผมก็ไม่ไปกับผู้ชายคนนั้น)
- THIRD Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 3)
ประโยคชนิดนี้ใช้สำหรับพูดความจริงที่เป็นไปได้ในอดีตว่า ถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งควรจะ คงจะ หรืออาจจะได้เกิดขึ้นมาแล้ว โดยใช้ present simple tense และ future simple tense ในอนุประโยค กล่าวคือ
- If + past perfect tense, + past in future perfect tense
ตัวอย่าง เช่น
- If she had studied hard, she would have passed the exam. ถ้าหล่อนได้เรียนหนัก หล่อนคงจะได้สอบผ่านไปแล้ว (แต่ในความเป็นจริง ผู้พูดรู้ว่าหล่อนไม่ได้เรียนหนักและสอบตกแล้ว)
- If I hadn't eaten so much, I wouldn't have felt sick. ถ้าผมกินไม่มาก ผมคงจะไม่ได้ป่วยแล้ว (แต่ในความเป็นจริง ผมกินเยอะ และเจ็บป่วยมาแล้ว)
- If we had taken a taxi, we wouldn't have missed the plane. ถ้าเราได้ขึ้นแท็กซี่ เราคงจะไม่พลาดเครื่องบิน (แต่ในความเป็นจริง ผมกินเยอะ และเจ็บป่วยมาแล้ว)
-
- She wouldn't have been tired if she had gone to bed earlier. เธอจะไม่เพลียถ้าเข้านอนเร็วกว่านี้
- She would have become a teacher if she had gone to university. เธอคงจะเป็นครูถ้าเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
- He would have been on time for the interview if he had left the house at nine. เขาคงมาสัมภาษณ์ทันเวลาถ้าออกจากบ้านตอนเก้าโมง
- MIXED Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขชนิดผสม)
ประโยคชนิดนี้ใช้สำหรับพูดสิ่งที่เป็นไปได้ในอดีตที่มีความสัมพันธ์กับปัจจุบัน โดยใช้รูปแบบที่ 2 บางส่วนผสมกับกับรูปแบบที่ 3 บางส่วน โดยมีรูปแบบดังนี้
- If + past perfect tense, + past in future tense
ตัวอย่าง เช่น
- She would be a rich widow now if she’d married him. เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้าเธอแต่งงานกับเขา (ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)
- If I’d studied law, I’d be an attorney now. ถ้าตอนนั้นเรียนนิติศาสตร์ตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นทนายความแล้ว (ตอนนั้นไม่ได้เรียนนิติศาสตร์ ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นทนายความ)
************************************************************